ความเคลื่อนไหวเมืองวันนี้ 8.30 น. วันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2562

ความเคลื่อนไหวเมืองวันนี้ 8.30 น. วันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2562

+++สงครามการค้าจีนสหรัฐ-การเมือง-ประเทศคู่แข่ง ส่งผลกระทบเศรษฐกิจ น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ปรับเป้าหมายการส่งออกปี 2562 เติบโต ร้อยละ 1 ถึง ติดลบ ร้อยละ1 หรือคาดว่าจะโตใกล้เคียงกับปี 2561 ที่เติบโต ร้อยละ 0  จากเดิมที่คาดว่าทั้งปี 2562 คาดว่าจะโตร้อยละ 1

++สถานการณ์ ส่งออกเดือนพฤษภาคม 2562 มีมูลค่า 21,017.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว ติดลบ ร้อยละ 5.8  เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 663,647 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 4  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2562 ไทยส่งออกรวมมูลค่า 101,561 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 2.7  

+++สรท.อยากเสนอแนะให้ภาครัฐเร่งดำเนินการในเรื่องที่สำคัญ อาทิ การเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศ (เอฟทีเอ), การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซป) ระหว่างอาเซียน กับ 6 ประเทศคู่เจรจา, ปรับปรุงข้อกฎหมายและกฎระเบียบทางการทูต ให้มีรูปแบบที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ และการส่งเสริมการพัฒนาที่มีความสำคัญสำหรับการค้าและการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

+++นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2562 ใหม่ จากค่ากลาง 1.2% เหลือค่ากลาง 1% นั้น สำหรับภาคเอกชนในนามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย คาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อปีนี้ขยายตัว 0.8-1.2% ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะยังไม่เห็นสัญญาณเงินฝืด แม้การบริโภคจะชะลอตัวลงบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นเงินฝืด โดยในการประชุม กกร. วันที่ 10 กรกฎาคมนี้ กกร.จะมีการปรับลดตัวเลข คาดการณ์ในส่วนของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ซึ่งประเมินไว้ที่ 3.7-4.0% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์การส่งออกที่ประเมินจะขยายตัว 3.0-5.0% ส่วนจะเป็นอัตราเท่าใดต้องอยู่ที่การประชุม กกร.วันดังกล่าวอีกครั้ง

+++ส่วนกรณีกระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ อัดฉีดเม็ดเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อปลุกกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้นั้น มองว่ากลุ่มที่ควรเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คือ เกษตรกร โดยควรใส่เงินเข้าสนับสนุนราคาสินค้าเกษตร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์ม ให้มีระดับสูงขึ้นและมีเสถียรภาพ เพราะปัจจุบันแม้ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังเป็นราคาที่ผันผวน กระทบต่อรายได้ และกำลังซื้อของเกษตรกรที่เป็นกำลังซื้อหลักของประเทศอยู่ดี

+++ปัญหาปลาทูไทยใกล้สูญพันธุ์ จากการจับลูกปลาทูขนาดเล็กไปจำหน่าย โดยขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าภายใน 7 วันนี้จะได้คำตอบจากกรมประมง โดยตนได้สั่งการให้เร่งศึกษาหาทางแก้ไขปัญหาทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลไทย  พร้อมให้ กรมประมงนำ พ.ร.ก.การประมง 2558 มาตรา 57 ที่มีข้อกำหนด “ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำหรือนำสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่า 14 เซนติเมตร ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดขึ้นเรือประมง” มาบังคับใช้

+++กรมประมง จะต้องเร่งศึกษาให้ชัดเจนตามที่ชาวประมง กล่าวอ้างด้วยว่าหากประกาศใช้มาตรา 57 จะกระทบอาชีพประมงอย่างไร และให้ไปดูครบทุกประเด็นทั้งผลกระทบประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ รวมทั้งการปรับแก้กฎหมาย 17มาตรา ที่ชาวประมงประสบความเดือดร้อนหลังจากมีมาตรการแก้ไขปัญหาประมงไอยูยู เนื่องจากกฎหมายมีโทษรุนแรงและยังมีกฎระเบียบ ข้อห้ามต่างๆที่เรือประมง มักทำผิดถูกดำเนินคดีได้โดยง่าย เช่น จะต้องลดภาระที่ชาวประมง มีค่าใช้จ่ายที่ต้องเปิดเครื่องติดตามเรือประมงตลอด เพื่อลดผลกระทบต่ออาชีพประมงและกิจการต่อเนื่องโดยเร็วที่สุด

+++ขณะนี้มีประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมากร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ประเด็นที่รถตู้โดยสารปรับราคาค่าโดยสารอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เช่น รถตู้โดยสารเส้นทางไทรน้อย-เซ็นทรัลปิ่นเกล้า-พาต้าปิ่นเกล้า เส้นทางฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เดอะมอลล์งามวงศ์วานได้ประกาศปรับค่าโดยสารอีก 5 บาท โดยอ้างเหตุจำเป็นได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันสูงขึ้น  นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้ตรวจการขนส่งทางบกลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว โดยเมื่อวันที่ 22 เมษายน คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ได้อนุมัติให้รถโดยสารปรับราคา ซึ่งรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. และรถร่วมบริการ รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และรถร่วมบริการได้รับอนุมัติปรับราคา รถตู้โดยสารก็ได้รับอานิสงส์ปรับราคาไปด้วย โดยช่วงนั้นมีการปรับราคาไปแล้ว 5 บาทต่อคน ดังนั้น หากผู้ประกอบการรถตู้รายใดที่ปรับราคาไปแล้วเมื่อวันที่ 22 เม.ย.จะมาปรับขึ้นอีกไม่ได้ หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสปรับราคา สามารถร้องเรียนสายด่วน 1584 ได้ทันที

+++หลังเกิดเหตุ คนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ จำนวน 2 คน ใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ สาขาคณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หรือ มทร.พระนครเหนือ ถนนพิบูลสงคราม แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. โดยได้เงินสดไปกว่า 70,000 บาท รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ได้สั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ร่วมกับตำรวจ กก.สส.บก.น.2 สืบสวนติดตามคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวนายเอ อายุ 25 ปี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) 1 ในผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าว พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีฟ้า ทะเบียนอยู่ระหว่างตรวจสอบ

+++สำหรับผู้ต้องหาอีกราย ซึ่งเป็นคนขับและใช้อาวุธปืนก่อเหตุนั้นยังคงหลบหนี ทางตำรวจได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับไว้แล้ว และจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ โดยหลังจากนี้จะนำตัวมอบให้ทางผู้บังคับบัญชาแถลงผลการจับกุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในเวลา 10.00 น.นี้ต่อไป

+++ปิดท้ายวันนี้ 11.00 น. นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นัดพบสื่อ ทานข้าว เล่าข่าว ข้าว ปาล์ม และประเด็นอื่น “ โดยทิ้งท้ายว่า Last time ในนามท่านชุติมา” ที่ ชั้น 4 สำนักปลัดกระทรวงพาณิชย์