ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐและกลุ่มสามมิตร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ความขัดแย้งก็มีอยู่ทุกพรรค ขึ้นอยู่กับว่าจะแสดงออกอย่างไร ปัญหาทุกอย่างจบแล้ว ทุกคนเข้าใจกันดี พร้อมขอบคุณทุกคน ขออย่าแค้นเคืองกัน ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนคนไทยเข้าใจ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีความไม่สบายใจเรื่องความขัดแย้งแต่เมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็สบายใจ
ส่วนรายชื่อรัฐมนตรี หลังจากนี้จะอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบเอกสาร ก่อนการรับรอง โดยได้ให้เวลาในการแก้ไขปัญหาของแต่ละบุคคลตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญใหม่ เช่นการถือหุ้น เมื่อเรียบร้อยก็จะส่งรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ส่วนกำหนดวันเวลาในการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ คาดว่าอยู่ประมาณกลางเดือนนี้
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่เป็นห่วงเรื่องคะแนนเสียงรัฐบาลที่ปริ่มน้ำ พร้อมทั้งขอให้ใจเย็นๆ เมื่อถูกถามว่าจะนั่งควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะยังนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเหมือนเดิมหรือไม่
ส่วนจะนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรี บอกว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปบริหารพรรค หากเกิดปัญหาขึ้นอีกก็ต้องแก้กันต่อไปเพราะปัญหามีไว้ให้แก้ ส่วนหลักเกณฑ์ในการเลือกรัฐมนตรีจะต้องมีธรรมาภิบาลมีประสบการณ์แก้ไขปัญหาเดิมๆที่มีอยู่ ซึ่งวันนี้ได้ให้โอกาสทุกคน แต่ยอมรับว่าปวดหัวในการทำงาน แต่ต้องใช้ความร่วมมือสร้างความเชื่อมั่นด้วยกลไกประชาธิปไตยและสร้างหลักคิดใหม่ให้บ้านเมืองดีกว่าเดิม
นายกรัฐมนตรี กล่าถึงสารขอโทษประชาชนเรื่องความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีข้อความว่า “จะมีการแก้ปัญหาแบบเดิมๆเกิดขึ้นอีก” ทำให้หลายฝ่ายตีความว่าอาจมีการปฏิวัติรัฐประหารซ้ำ กล่าวว่า ไม่ได้ต้องการสื่อเช่นนี้แค่เป็นการตีความไปเอง และก็ไม่ต้องการให้เกิดรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ที่ถูกทำร้ายร่างกายว่า เบื้องต้นได้สั่งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งคสช. และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามและดูแลเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและดูแลเรื่องรักษาพยาบาลเพราะตอนนี้มีผลกระทบในสังคมค่อนข้างมาก ซึ่งการทำร้ายร่างกายกันไม่สมควรจะเกิดขึ้น พร้อมกับยืนยันว่า ตัวเองไม่ใช่ศัตรู ส่วนกรณีจ่านิวได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศก็ขอแสดงความยินด้วยพร้อมพูดติดตลกว่า"เป็นจ่า ไม่เป็นหมวดซะทีนะ"
ผู้สื่อข่าว ปิยะธิดา เพชรดี