ทันสถานการณ์โลก 6.30 น.

03 พฤศจิกายน 2557, 07:38น.


ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ซึ่งศึกษาการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาเตือนว่า ชาวอเมริกันควรเตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้ออีโบลาในสหรัฐฯที่จะเพิ่มขึ้นภายในสิ้นปีนี้ เพราะอาจมีผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตก รวมทั้งแพทย์และพยาบาล ไปจนถึงผู้ที่หนีภัยอีโบลามาจากแอฟริกา



ด้านรัฐบาลเซียร์ราลีโอนตำหนิแคนาดาที่ออกมาตรการระงับการออกวีซ่าให้กับประชาชนที่ถือสัญชาติหรือมีภูมิลำเนาในประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก ที่มีการระบาดของไวรัสอีโบลา เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการเลือกปฏิบัติ แต่แคนาดาชี้แจงว่า เป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า



ส่วนทางการฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์สหประชาชาติ ซึ่งติดเชื้อระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในเซียร์ราลีโอน เดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในแซงต์-มองเด ใกล้กรุงปารีส ซึ่งเคยรักษาพยาบาลอาสาสมัครองค์การแพทย์ไร้พรมแดนที่ติดเชื้อในไลบีเรีย จนหายเมื่อเดือนกันยายน



ส่วนสาธารณสุขรัฐโอเรกอน สหรัฐ แยกตัวสตรีอเมริกันที่เพิ่งกลับจากแอฟริกาตะวันตก เนื่องจากเธอมีไข้ขึ้นสูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส โดยให้ส่งตัวไปยังหน่วยเฝ้าระวังของโรงพยาบาลโพรวิเดนซ์ มิลวอกี และใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 4,960 ศพแล้ว



ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มรับอิสลาม หรือไอเอสในอิรักเจ้าหน้าที่ของทางการ และผู้นำชนเผ่าระบุว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการสังหารสมาชิกชนเผ่ามุสลิมสุหนี่อัลบูนิมร์ ในจังหวัดอันบาร์ อิรักที่ต่อต้านกลุ่มนี้ไปแล้วกว่า 200 คน



นอกจากนี้ยังพบการเคลื่อนไหวในเขตเอเชียใต้ ที่มีการเผยแพร่ข้อความเชิญชวนเข้าร่วมกองกำลังกระจายไปตามเมืองต่างๆ ทางตอนเหนือของปากีสถาน และทางภาคตะวันตกของอัฟกานิสถาน



มติล่าสุดของสหประชาชาติ ที่ร่างโดยสหภาพยุโรปเรียกร้องให้รัฐบาลพม่า เปลี่ยนแปลงนโยบายที่ไม่ยอมรับชาวมุสลิมโรฮิงญาเป็นพลเมือง ซึ่งเป็นแรงกดดันจากนานาชาติ ก่อนที่พม่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียนกลางเดือนนี้ ซึ่งจะมีผู้นำคนสำคัญของโลกอย่างประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ เดินทางมาเข้าร่วมประชุม และแสดงให้เห็นว่า นานาชาติไม่พอใจสถานะชาวโรฮิงญาในพม่าในปัจจุบัน



เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเซาเปาลู เมืองใหญ่ที่สุดของบราซิล แถลงว่า มีประชาชนมากกว่า 2,000 คน จัดการประท้วงอย่างสันติ เพื่อเรียกร้องให้มีการถอดถอน หรืออิมพีช เมนท์ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ ผู้นำหญิงบราซิลออกจากตำแหน่ง เพราะเห็นว่ารับรู้แผนการโอนเงินจากบริษัทน้ำมันของรัฐปิโตรบราสไปใช้ในพรรคแรงงานของรัฐบาล



ชาวโรมาเนียใช้สิทธิเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ แทนประธานาธิบดีทราเอียน บราเซสคู ที่ลาออกหลังดำรงตำแหน่ง 10 ปี  โดยมีนายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ปอนต้า เป็นตัวเก็งที่จะชนะการเลือกตั้ง



กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ประกาศลดระดับการก่อตั้งสำนักงานข่าวกรองในต่างประเทศ ในนาม สำนักงานสืบราชการลับด้านกลาโหม หรือ ดีซีเอส ซึ่งจะทำงานร่วมกับ สำนักข่าวกรองกลาง หรือ ซีไอเอ เพื่อตัดลดงบประมาณ หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสแสดงความกังวลเกี่ยวกับงบประมาณและการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน



เจ้าหน้าที่สหรัฐ สอบสวนสาเหตุการตกของยานอวกาศต้นแบบเวอร์จิน กาแลคติก  ทำให้หนึ่งในสองนักบินทดสอบเสียชีวิต ซึ่งพบว่า เศษชิ้นส่วนของยานกระจัดกระจายไปไกลถึง 8 กิโลเมตรทั่วทะเลทรายแคลิฟอร์เนีย ที่แสดงให้เห็นว่า ยานระเบิดกลางอากาศ และพบร่มชูชีพไม่กางในบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยนักบินไมเคิล อัลส์ เบอรี อายุ 39 ปีเสียชีวิต ส่วนนักบินฟีเตอร์ ซีโบลด์ วัย 43 ได้รับบาดเจ็บสาหัส



ตำรวจเขตปกครองตนเองพิเศษฮ่องกง จับกุมนายรูลิค จัตติ้ง ชาวอังกฤษ อายุ 29 ปี พนักงานธนาคารเมอร์ริลลินช์ ประจำฮ่องกง ในฐานะผู้ต้องสงสัยที่พบในที่เกิดเหตุฆาตกรรมบนชั้น 31 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเขตหว่านไจ๋ย่านบันเทิงยามราตรีของฮ่องกง โดยเหยื่อ 2 รายเป็นหญิงฮ่องกงและหญิงต่างชาติ อายุราว 25-30 ปี  ซึ่งมีบาดแผลถูกแทงและคาดว่าทั้ง 2 คนเป็นหญิงขายบริการทางเพศ



และปิดท้ายที่เรื่องของ นางสาวกอนเชห์ กาวามี อายุ 25 ปีซึ่งชาวอิหร่าน-อังกฤษ เธอถูกจับกุมที่กรุงเตหะราน และถูกตัดสินจำคุก 1 ปี เพราะเข้าไปชมวอลเลย์บอลที่สนามกีฬาอาซาดี เพราะต้องการเข้าชมการแข่งขันวอลเลย์บอลชายระหว่างทีมชาติอิหร่านกับอิตาลีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน แต่ในอีก 2-3 ชั่วโมงต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัว จากนั้นก็ถูกจับอีกครั้ง และเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งศาลระบุว่า เธอมีความผิดฐานเผยแพร่การโฆษณาชวนเชื่อที่เป็นภัยต่อประเทศ อย่างไรก็ตามกาวามีติดคุกไปแล้ว 126 วัน และเจ้าหน้าที่ของอิหร่านเผยว่า กาวามีต้องโทษติดคุกเพราะเรื่องความมั่นคง ไม่เกี่ยวข้องกับการที่เธอต้องการเข้าไปดูกีฬา ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน นำเรื่องของกาวามีมาหารือกับประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน โรฮานี ขณะพบกันในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาติที่นิวยอร์กเมื่อเดือนกันยายน และกล่าวกับผู้นำอิหร่านว่า เรื่องนี้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของอิหร่านที่มีต่ออังกฤษมาก



*-*

ข่าวทั้งหมด

X