สรุปข่าว19.30น.วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562
+++เปิด 8 รายชื่อ ส่อมีปัญหาคุณสมบัติ ระวังหลุดโผ ว่าที่ รมต.บิ๊กตู่ 2/1 สำหรับรายชื่อรัฐมนตรี บิ๊กตู่ 2/1 ที่ลือกันว่า มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ นิพนธ์ บุญญามณี ว่าที่ รมช.มท. (ปชป.) คดีถูกร้องเรียนส่อทุจริตในตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลา ขณะนี้เรื่องไปถึงศาล รธน.แล้ว นายสาธิต ปิตุเตชะ ว่าที่ รมช.สาธารณสุข (ปชป.) ส่อถือหุ้นสื่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ว่าที่ รมว.คมนาคม (ภท.) ติดปัญหาสมัยนั่ง ปธ.คณะทำงาน รมว.มท. สมัย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น มท.1 เรื่องใบพกพาอนุญาตพกปืน ปืนสวัสดิการ โรงรับจำนำ ส่อทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ตอนนี้เรื่องอยู่ในชั้น ป.ป.ช. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ว่าที่ รมช.เกษตรฯ (ภท.) ถูกร้องเรียนบ่อบำบัดน้ำเสียร้าง ที่อุทัยธานี นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หรือกำนันป้อ ว่าที่ รมช.พาณิชย์ (ภท.) ถูกดำเนินคดีรุกที่ ส.ป.ก. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ว่าที่ รมว.ศึกษาฯ (พปชร.) ส่อถือหุ้นสื่อ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ว่าที่ รมว.ต่างประเทศ (รปช.) ส่อถือหุ้นสื่อ และนายสุชาติ ชมกลิ่น ว่าที่ รมว.แรงงาน (พปชร.) ส่อถือหุ้นสื่อ
+++ศาลอาญา ถ.รัชดาฯอ่านคำพิพากษาคดี บริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัดกับพวก ซึ่งเป็นบริษัทในเครือรวม 4 ราย ยื่นฟ้องนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ใส่ความกรณีวันที่ 8 มิ.ย. 2559 นายชายชัย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษา เสนอแนะมาตรการและกลไกการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ศาลพิเคราะห์ว่า การแถลงข่าวของจำเลยกรณี8ครั้ง มีข้อความลักษณะยืนยันให้ร้ายบริษัทโจทก์ทั้งสี่ จึงเป็นการทำให้โจทก์ทั้งสี่ ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ให้จำคุก 8 กระทงๆ ละ 1 ปี เป็นจำคุกทั้งสิ้น 8 ปี ศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยมีเจตนาเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ สมควรให้โอกาสกลับตัว และจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาลงหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ มติชน ข่าวสด เดอะเนชั่น สยามรัฐ และคมชัดลึก
+++ตำรวจ สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ คุมตัว นายอนุศักดิ์ มิ่งเมืองและภรรยา ส่งศาลจังหวัดบุรีรัมย์ฝากขัง คดีส่งกล่องพัสดุบรรจุไอซ์ 50 กรัม และยาอี กว่า 50 เม็ด ผ่านทางไปรษณีย์ อ.สตึก จ่าหน้าผู้รับ พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน สว.กก.2 บก.ทท. หรือสารวัตรแย้ และขณะนี้ชุดสืบสวนภาค 6 พร้อมชุดสืบสวน สภ.สตึก อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอน รวมทั้งพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า สารวัตรแย้ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
+++สถานการณ์การคลัง ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 – พฤษภาคม 2562) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,645,777 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 65,597 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 40,875 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.5 โดยเป็นผลจากการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร และหน่วยงานอื่น การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากรที่สูงกว่าประมาณการ จำนวน 38,017 36,893 10,675 และ 6,950 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.2 35.9 8.3 และ 10.4 ตามลำดับ สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ กระทรวงการคลังจะติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
+++ภาพรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 มียอดขายรวมอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท เติบโตจากครึ่งปีแรกในปีก่อน สูงถึง ร้อยละ11.6 เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเดิมตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตร้อยละ5 สำหรับปัจจัยหลักมาจาก 1. สินค้ามาม่า โอเค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในกลุ่มพรีเมี่ยมที่มีราคาขาย 15 บาท ที่ทำตลาดเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับดีมาก โดยสิ้นปี 2562 นี้ มาม่าน่าจะเติบโตได้ร้อยละ 10.5 หรือมียอดขายรวม 10,350 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังบริษัทจึงรุกตลาดหนักต่อ รวมถึงข้าวต้มคัพ รสหมูสับกระเทียมพริกไทย ได้รับความนิยม
+++ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวันก่อนปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,731.64 จุด เพิ่มขึ้น 9.43 จุด (+0.55%) มูลค่าการซื้อขาย 69,369.10 ล้านบาท นักลงทุน คาดหวังปัจจัยบวกจากการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีกำหนดพบปะเจรจากัน ทำให้ตลาดฯปรับขึ้นได้ดี ประกอบกับราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นเกือบร้อยละ 3 ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสื่อรายงานว่า จีนได้ตกลงที่จะยุติสงครามการค้ากับสหรัฐ ก่อนที่ผู้นำของทั้งสองประเทศจะพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 251.58 จุด หรือ 1.19% ปิดที่ 21,338.17 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นและหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ของฮ่องกง รายงานว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะสงบศึกการค้าชั่วคราว ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะประชุมร่วมกันนอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่ญี่ปุ่นสุดสัปดาห์นี้ ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 399.44 จุด ปิดวันนี้ที่ 28,621.42 จุด
+++ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีกำหนดพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันเสาร์นี้เวลา 11.30 น.ตามเวลาญี่ปุ่น หรือ 09.30 น.ตามเวลาไทย นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น การประชุมทวิภาคีระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำจีนในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในการประชุมสุดยอด G20 เนื่องจากจะเป็นการชี้ชะตาว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะสิ้นสุดลง หรือจะยังคงยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน และเศรษฐกิจโลกต่อไป นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ยังคงย้ำให้สหรัฐยกเลิกการคว่ำบาตรบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ขณะที่จีนยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนในประเด็นการค้ากับสหรัฐ
+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง การจ่ายเงินทุนประเดิมเด็กเกิดในวันออมสิน เนื่องด้วยธนาคารออมสินได้กำหนดให้วันที่ 1 เมษายน ของทุกปีเป็น“วันออมสิน” และธนาคารจะจ่ายเงินทุนประเดิมให้แก่เด็กที่เกิดในวันออมสิน เพื่อเป็นการสร้างนิสัยการออมให้แก่เด็ก โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2546 จึงกำหนดการจ่ายเงินทุนประเดิมเด็กเกิดในวันออมสิน 500 บาท หากตั้งชื่อว่า ออมสินได้เงินอีก 5,000 บาท
+++นายศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์จำนวนผู้เรียนที่เข้าศึกษาในโรงเรียนและวิทยาลัยอาชีวศึกษาของเอกชนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่การศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวนเด็กลดลง โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอัตราการเกิดของประชากรน้อย ซึ่งระดับที่เห็นอย่างชัดเจนว่าจำนวนเด็กลดลง คือ อนุบาล 3 ปี นอกจากนั้น ยังได้ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่าในปีการศึกษา 2562 มีโรงเรียนเอกชนที่เสนอขอเลิกกิจการแล้ว จำนวน 10-15 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนอนุบาลขนาดเล็กและโรงเรียนขนาดกลาง สำหรับการวางแผนในอนาคตต้องยอมรับว่าคงทำลำบาก เพราะนโยบายรัฐบาลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่โรงเรียนเอกชนได้รับผลกระทบมาก คือ นโยบายที่ให้ สพฐ. จัดอนุบาล 3 ปี และการจัดการศึกษาของสพฐ.ซ้ำซ้อนกับโรงเรียนเอกชน