การประชุมสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณารับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ มาตรา 270 ตามรัฐธรรมนูญ 2560 (เดือนมกราคม-มีนาคม) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 สมาชิกซีกฝ่ายค้าน ยังคงอภิปรายแผนการปฏิรูปทั้ง 11 ด้านอย่างกว้างขวาง น.ส.จิราพร สิทธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า แผนการปฏิรูปของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้เกิดความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ 5 ปีที่ผ่านมา ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก คนจนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 14 ล้านคน แต่มีเพียงคนร้อยละ1 เท่านั้นที่ถือครองสินทรัพย์มากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ จึงตอกย้ำให้เห็นว่า ไทยอยู่ในภาวะรวยกระจุกจนกระจาย มีโครงสร้างเศรษฐกิจที่บิดเบี้ยว เพราะพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่ในระดับบน เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มเจ้าสัว แต่ผู้ประกอบการรายย่อย คนยากจนไม่ได้รับประโยชน์ สะท้อนให้เห็นว่า ไทยกำลังเผชิญกับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยแผนปฏิรูปประเทศฉบับนี้ จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำได้เลย การปฏิรูปจึงเป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้นเอง ด้านนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า แผนปฏิรูปจะต้องสัมพันธ์กับแผนแม่บท โครงการปฏิรูปต้องไม่ทับซ้อนกับกระทรวง และจังหวัดที่จะดำเนินการทุกปี ต้องระบุปัญหาสำคัญเร่งด่วนว่า คืออะไร และวัดผลความสำเร็จภายใน 1 หรือ 2ปี นอกจากนี้ที่ประชุมวันนี้ยังมีการประชุมเรื่องปัญหาพืชผลทางการเกษตรที่จะพิจารณาต่อจากเรื่องนี้อีกด้วย
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี
แฟ้มภาพ