'ศาลรัฐธรรมนูญ' รับคำร้อง 32 สส. ถือหุ้นสื่อ กรณ์,ปารีณา รอด

องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ในฐานะผู้ร้องยื่นคำร้องผ่านประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จำนวน 41 คนของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไว้พิจารณา 32 คน และไม่รับคำร้องไว้พิจารณา 9 คน

ในส่วนของผู้ที่ถูกยกคำร้อง 9 คน  ประกอบด้วย นายศาสตรา ศรีปาน, นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์, น.ส.ภริม พูลเจริญ, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์, นายไชยวุฒิ ธนาคมสนุสรณ์, นายจักรพันธ์ พรนิมิต, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายประมวล พงศ์ถาวราเดช และ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ซึ่งได้ตรวจสอบจากเอกสารประกอบคำร้องของผู้ร้องปรากฏว่า หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าของบุคคลเหล่านี้ มีข้อความระบุรายละเอียดวัตถุประสงค์ไว้ในทำนองเดียวกัน อาทิ ประกอบกิจการการค้ากระดาษ เครื่องเขียน แบบเรียน แบบพิมพ์หนังสือ อุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์ หรือกิจการสื่อมวลชนใดๆ ที่จะเป็นลักษณะเข้าข่ายอันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ 9 ส.ส. ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ

ส่วนผู้ถูกร้องอีก 32 คนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาให้แจ้งให้ผู้ถูกร้องทราบ และให้ผู้ถูกร้องทั้งหมดยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง และผู้ถูกร้องทั้งหมดยังไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ตามที่ผู้ร้องร้องมา เนื่องจากผู้ร้องคือ พรรคอนาคตใหม่ ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงมาให้ชัดเจน จึงยังไม่ปรากฏเหตุว่าผู้ถูกร้องทั้งหมดประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสื่อจริงจนเป็นเหตุให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป

ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำสั่งให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องคดีถือหุ้นสื่ออีกคดีหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ต่อไปจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยอย่างหนึ่งอย่างใดจากศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมชี้แจงว่าผู้ถูกร้องผ่านการสอบสวนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่เป็นผู้ร้องในคดีนี้มาแล้ว ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริง ว่าผู้ถูกร้องมีรายได้จากการขายนิตยสารและการให้บริการโฆษณา จึงเป็นเหตุให้สงสัยได้ว่าผู้ถูกร้องถือหุ้นสื่อจริงจึงจำเป็นให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ต่อไป