รองโฆษกสนง.อสส. ยืนยันทำตามขั้นตอนคดีของแรมโบ้อีสาน เหตุจำเลยขอเลื่อนคดีบ่อย

การชี้แจงกรณีอัยการไม่สามารถนำตัวนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน มาฟ้องศาลจังหวัดพัทยา คดีก่อเหตุวุ่นวายในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดพัทยา วันที่ 1 สิงหาคม 2560 หมดอายุความวันที่ 11 เมษายน 2562 ระหว่างการนัดนายสุภรณ์ ส่งฟ้องศาล นายสุภรณ์ อ้างว่า ติดปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. อัยการก็ให้มาพบวันที่ 2 เมษายน 2562 นายสุภรณ์ อ้างว่าป่วย อัยการจึงมีหนังสือถึงผู้กำกับสภ.พัทยาและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ให้ติดตามตัวนายสุภรณ์มาให้พนักงานอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลภายในวันที่ 5 เมษายน 2562  ซึ่งวันที่ 4 เมษายน 2562 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนายสุภรณ์ แต่สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามจับนายสุภรณ์ได้ เป็นสาเหตุที่ส่งฟ้องไม่ทัน นายประยุทธ ยืนยันว่า ตั้งแต่อัยการรับสำนวนจากพนักงานสอบสวนมีเวลาติดตามตัวและส่งฟ้องเพียง1ปีเศษ ไม่ขอออกความเห็นว่าทำไมพนักงานสอบสวนถึงใช้เวลานาน 8 ปีในการส่งสำนวนมาให้อัยการ  ยืนยันดำเนินการตามขั้นตอนเต็มที่ ในส่วนนี้จะไม่กระทบต่อรูปคดีกับผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องไปแล้ว

คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7คน ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,นายจตุพร พรหมพันธุ์,นายแพทย์เหวง โตจิราการ,นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ,นายอดิศร เพียงเกษ ,นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ,นายจักรภพ เพ็ญแข หลังจากอัยการได้รับสำนวนมาจากพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่1สิงหาคม2560 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในวันที่8กุมภาพันธ์2562 และนัดให้ผู้ต้องหามาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เพื่อนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แต่ผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนหลายครั้ง จนวันที่ 28 มีนาคม 2562 ครบกำหนดวันนัดอีกครั้ง มีเพียงนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายจตุพร, นายแพทย์เหวง เดินทางมาเท่านั้น อัยการจึงยื่นฟ้องทั้ง 4 คนนี้ จากนั้นนายอดิศรมาพบในวันที่2เมษายน อัยการก็ได้ส่งฟ้องต่อไปแล้ว ทำให้ขณะนี้เหลือเพียงนายสุภรณ์ ที่ไม่สามารถติดตามตัวได้และนายจักรภพ ที่หลบหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่แรกจนคดีขาดอายุความ

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ