ปลายเดือนนี้จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี20 ที่ประเทศญี่ปุ่น นายจาง จุน ผู้ช่วยรัฐมนตรีการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมด้วย และมีความเห็นว่า การดำเนินนโยบายกีดกันการค้ากำลังสร้างความเสียหายต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึง ห่วงโซ่มูลค่าของทั่วโลก และความเชื่อมั่นในตลาด
นายเฉิน ยู่ลู่ รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า มีปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและการเงินโลกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้หลายประเทศต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ซึ่งยังมีอีกหลายประเทศที่มีความจำกัดในการรับมือการชะลอตัวรุนแรงของเศรษฐกิจโลก จีนจึงจะร่วมกับสมาชิกในกลุ่มจี20 สนับสนุนการค้าแบบพหุภาคีที่เปิดกว้างและสอดคล้องกับกฎการค้าโลก นายเฉินกล่าวด้วยว่า คณะทำงานของจีนกับสหรัฐฯ กำลังมีการเตรียมการหารือระหว่างประธานาธิบดีสี กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการประชุมคู่ขนานของการประชุมที่โอซากา โดยจีนมีความยึดมั่นในหลักการเจรจาที่ยึดถือการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน, ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน, และเป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งพบกันคนละครึ่งทาง
อย่างไรก็ตามคาดว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะยกกรณีของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ บริษัทโทรคมนาคมของจีนขึ้นมาหารือด้วย ซึ่งจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกการใช้มาตรการที่ไม่เหมาะสมและเป็นการเลือกปฏิบัติต่อบริษัทจีน ที่มีแต่ทำลายผลประโยชน์ของบริษัททั้งสองชาติ
ด้านเดอะวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณาข้อกำหนดให้อุปกรณ์ 5จีรุ่นต่อไปที่จะใช้ในอเมริกา ต้องออกแบบและผลิตนอกประเทศจีน
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมสถานที่ทำการของทางการและหน้าอาคารสภานิติบัญญัติเป็นครั้งที่ 2 ทันทีที่สำนักงานของทางการฮ่องกงเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์ จากที่ปิดไปตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน
สำหรับประเด็นเรียกร้องของการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้คือต้องการให้ผู้บริหารเขตปกครองถอนร่างกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และให้นางแคร์รี่ แลม ผู้ว่าการเขตปกครองลาออก และปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมระหว่างที่มีการชุมนุมในครั้งก่อน ซึ่งนอกจากนี้ แกนนำการประท้วงยังเตรียมเดินขบวนเรียกร้องไปยังกลุ่มประเทศจี 20 ให้สนับสนุนฮ่องกงเป็นอิสระจากการปกครองของรัฐบาลจีน
ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งพิเศษมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอิหร่านเพิ่มเติม เพื่อตอบโต้กรณีที่อิหร่านยิงโดรนของสหรัฐฯ ซึ่งอยาโตเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านต้องรับผิดชอบ รวมถึง นายจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ แห่งมาเลเซีย เตือนว่า ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ อาจทำให้เกิดสงครามโลกได้ ซึ่งเขาเห็นว่าสหรัฐฯ คือผู้ที่ยั่วยุให้เกิดเหตุรุนแรง โดยเริ่มจากการถอนตัวออกจากสนธิสัญญานิวเคลียร์ แล้วเรือรบไปอ่าวเปอร์เซีย ทั้งดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อยั่วยุอิหร่าน ซึ่งหากสองชาตินี้ทำสงครามก็จะลุกลามจนกลายเป็นสงครามโลก
ส่วนกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ มีคำสั่งให้โจมตีทางไซเบอร์ระบบควบคุมขีปนาวุธของอิหร่าน นายโมฮัมหมัด จาวัด อาซารี จาห์โรมี รัฐมนตรีโทรคมนาคมอิหร่าน แถลงว่า สหรัฐฯพยายามโจมตีทางไซเบอร์อิหร่านจริง แต่ไม่สำเร็จ โดยในปีที่แล้ว อิหร่านสกัดการโจมตีได้หลายครั้งด้วยระบบที่เรียกว่าเดจฟา
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ เริ่มต้นการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหาแนวร่วมต่อต้านอิหร่าน แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็ย้ำคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ว่าต้องการเจรจาเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับอิหร่าน
หลายประเทศในทวีปยุโรปกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยหลายประเทศมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส โดยทางการสเปนออกประกาศเตือนภัยระดับสีเหลืองและเตือนประชาชนว่าฤดูร้อนปีนี้จะร้อนกว่าปกติ ขณะที่อุณหภูมิในเยอรมนี เบลเยียม ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ จะอยู่ที่ระหว่าง 37-38 องศาเซลเซียส
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 57.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 34 เซนต์ ปิดที่ 64.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.41 จุด หรือร้อยละ 0.03 ปิดที่ 26,727.54 จุด
เอสแอนด์พี ลดลง 5.11 จุด หรือร้อยละ 0.17 ปิดที่ 2,945.35 จุด
แนสแดค ลดลง 26.01 จุด หรือร้อยละ 0.32 ปิดที่ 8,005.70 จุด
...