รองวิษณุ ชี้แจงการตรวจสอบคุณสมบัติส.ว.ถือหุ้นสื่อ ไม่กระทบองค์ประชุม

กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบกรณี 21 สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)อาจเข้าข่ายเป็นผู้ถือหุ้นสื่อ และต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องอยู่ในดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยอย่างไร ส่วนจะให้หยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ ศาลจะพิจารณาถึงความเสียหายว่าอยู่ระดับไหน ซึ่งถ้าหากหยุดปฎิบัติหน้าที่แล้ว คำวินิจฉัยเป็นอื่น ศาลก็จะให้หยุด ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเด็นมีมูลหรือไม่ นอกจากนี้ นายวิษณุ ยกตัวอย่างของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะไม่มีสิ่งที่ทำให้เสียหาย ส่วนกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ส่วนตัวไม่ทราบตอบไม่ถูก แล้วแต่ศาลจะสั่ง พร้อมมองว่าไม่สามารถนำเรื่องที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ตัดสิทธิ์สมัครเลือกตั้งของนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัครส.ส.จ.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ มาเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาเรื่องถือหุ้นสื่อของส.ส.และส.ว.คนอื่นที่ถูกร้องเรียนด้วย ส่วนการทำงานของรัฐสภาหากส.ส.หายไป 100 คน จะสามารถทำงานต่อได้อย่างไร นายวิษณุ เปิดเผยว่า สามารถทำได้ตามจำนวนที่มีอยู่ แต่จะมีปัญหาในเรื่ององค์ประชุมที่ต้องเกินกึ่งหนึ่งซึ่งคาดว่าคงไม่กระทบ

ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี