นายกรัฐมนตรี เปิดการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ยืนยันความพร้อมและความมั่นคงของภูมิภาค

21 มิถุนายน 2562, 10:44น.


ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ร่วมกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ครั้งที่ 5 (The Fifth Bloomberg ASEAN Business Summit – ABS) ขึ้นในเช้าวันนี้โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการกล่าวปาฐกถาเปิดการประชุม โดยได้กล่าวถึงบทบาทและการทำงานทั้งในส่วนของภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทยไว้หลายประการในส่วนของอาเซียน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัจจุบันภูมิภาคอาเซียนมีตลาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมรวมกันกว่า 2 ล้าน 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนามูลค่าการตลาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มอำนาจและศักยภาพในการต่อรอง นอกจากนี้ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนในปี 2562 ยังตั้งเป้าผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซป) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อาร์เซปเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยให้ภูมิภาคอาเซียนโตได้อีกมาก แต่ขณะเดียวกันสังคมโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายรูปแบบใหม่ๆหลายประการ เช่น สงครามการค้า และการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งส่วนตัวก็มั่นใจว่าสมาชิกในภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพในการรับมือ เพียงแต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ในส่วนของประเทศไทยยืนยันว่าจะไม่ทิ้งผู้ใดไว้ข้างหลัง



นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า ภูมิภาคอาเซียนมีฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งก็ต้องการขับเคลื่อนภูมิภาคอาเซียนให้เป็นไปแบบไร้รอยต่อ ส่วนตัวก็ฝากถึงภาคเอกชนให้เชื่อมั่น และใช้ความพร้อมที่ภูมิภาคอาเซียนมีอยู่มาลงทุนและขยายธุรกิจร่วมกัน



ในส่วนของประเทศไทย ซึ่งเพิ่งผ่านการเลือกตั้ง โดยรัฐบาลชุดใหม่จะเดินหน้าสานงานต่อโดยยึดหลักแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยมีเสถียรภาพและมีความปรองดอง ทั้งได้ชี้แจงผลงานรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่ามีผลงานเป็นรูปธรรมหลายประการ เช่น การแก้ไขปัญหาการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย, สภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่อง เช่นเดียวกับเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่อันดับ 12 ของโลก และภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้านักท่องเที่ยวมาไทยที่ 40 ล้านคน แต่ขณะเดียวกันประเทศไทยก็ยังเผชิญปัญหาหลายประการ โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม และปัญหาทางทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งส่วนตัวต้องการให้ประเทศไทยเติบโตจากข้างใน พร้อมฝากให้นักธุรกิจต่างชาติช่วยดูแลธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรกรรมของไทย เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญหลักของประเทศ



นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า จะนำประเด็นที่มีการพูดคุยกันในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนไปหารือในการประชุม G20 ที่ตัวเองจะไปเข้าร่วมประชุมด้วย และขอให้การประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียนครั้งที่ 5 ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย



สำหรับการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียนครั้งที่ 5 นี้มีหัวข้อสำคัญที่จะมีการพูดคุยในการประชุมหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงของการเมืองระหว่างประเทศและผลกระทบต่อการค้าโลกกับอาเซียน, ภาวะการลงทุนในอนาคต และผลกระทบของความพยายามในการปฏิรูปทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน เป็นต้น



...



ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร 

ข่าวทั้งหมด

X