ประธานสภาฯ เตือนส.ส.อย่าใช้เอกสิทธิ์ เหนือประชาชน ยกตัวอย่าง ส.ส.ขึ้นเครื่องบินช้าส่งผลกระทบ

ถึงแม้ในวันนี้ จะงดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการสัมมนาสำหรับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.หน้าใหม่ ในหัวข้อ บทบาทหน้าที่ของส.ส.กับการสนับสนุนการดำเนินงานและการให้บริการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ณ หอประชุมใหญ่ TOT โดย นายชวน  หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือ ประธาน ส.ส. กล่าวเปิดงานสัมมนาย้ำ ว่า หน้าที่ ส.ส. ต้องตระหนักถึงประชาชนเป็นสำคัญ ในฐานะที่เป็นผู้แทนที่ได้รับเลือกเข้ามา ที่ผ่านมา ส.ส.มีเอกสิทธิ์มากมาย จึงอยากให้ทุกคนคิดเสมอว่า แม้จะมีเอกสิทธิ์ที่ทำได้มากกว่าคนอื่น ก็ใช่ว่าจะเหนือกว่าคนอื่น พร้อมยกตัวอย่างกรณีหนึ่งของ ส.ส.ในการใช้บริการสายการบิน ซึ่ง ส.ส.มีเอกสิทธิ์ ในการเดินทางมากกว่าประเทศอื่นๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีสายการบินหนึ่ง เกิดความขัดแย้งกับ ส.ส. ที่ใช้เอกสิทธิ์เดินทาง กรณีที่ ส.ส. มาช้า ให้สายการบินรอ ทำให้กระทบกับประชาชนที่มาใช้บริการ กรณีการจองเที่ยวบินไว้ แต่ไม่ได้มีการเดินทาง ซึ่งแท้จริงแล้ว สิทธิดังกล่าวไม่ใช่ของฟรี เพราะสายการบินต้องนำบิลรายจ่ายมาเรียกเก็บ กับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เป็นปัญหาหนี้สิน ที่ผ่านมาได้มีกรณีดังกล่าวนี้มากมาย จึงอยากให้ ส.ส.ระวังในการใช้เอกสิทธิ์ดังกล่าว เพราะหากได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ก็จะทำให้มีปัญหาตามมา รวมถึงปัญหาการโดยสารรถไฟ หรือ รถ บริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ที่ ส.ส.สามารถมีผู้ติดตามได้ 1 คน แต่ปรากฏว่า ส.ส.ได้จองเที่ยวรถ แต่ไม่ได้เดินทางเอง ทำให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ดี ส่วนภารกิจสำคัญ นอกจากการพิจารณากฎหมายสำคัญแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการพิจารณา พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่เป็นภารกิจสำคัญ โดยเฉพาะขณะนี้เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หาก ส.ส.ไม่มาปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจส่งผลกระทบต่อกฎหมายดังกล่าวได้ และยิ่งต้องระวัง ซึ่ง ส.ส. อยู่ในสถานะที่ถูกจับผิดมากกว่า หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นตัวแทนประชาชน