หลังจากตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมน.ส.ปริศนา พรายแสง หรือ ปุ๊กกี้ นายชลวิทย์ คีตะตระกูล แฟนหนุ่ม และนายหง เจิ้ง อี้ ชาวไต้หวัน พร้อมของกลางหลายรายการ จากนั้นได้คุมตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด รวมถึงสอบปากคำถึงประเด็นว่ามีใครหรือดาราคนไหนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ โดยแต่งตั้งให้พล.ต ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพยอมรับว่า ติดยาจริง พยายามเลิก แต่ไม่สามารถจะเลิกได้ ติดยาเสพติดมากว่า10ปี จนทำให้ตัวเองเบลอ กระทบชีวิตหลายด้าน ส่วนประเด็นเรื่องดารา ปุ๊กกี้ ไม่มีการพูดถึง แต่เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบทางเทคนิคแล้วพบว่ามีความเชื่อมโยงไปที่ดาราหลายคน แต่ไม่แน่ชัดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ อาจจะเป็นการพูดคุยกันในฐานะเป็นเพื่อนดาราด้วยกันก็ได้
พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ปส. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนตลอดทั้งคืน ให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีความเครียดลดลง เพราะสอบสวนอย่างเป็นกันเอง โดยปุ๊กกี้ยอมรับว่า ไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก ทำมามากกว่า1ปี และใช้วิธีการคล้ายคลึงกับครั้งนี้ ยืนยันจากการสอบสวนขณะนี้ยังไม่มีดาราเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หากเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานไปถึงก็จะไม่ละเว้น ส่วนที่ผู้ต้องหาให้การว่ารับยาเสพติดมาจากย่านโชคชัย 4 ที่เป็นเครือข่ายของชาวไทย อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเครือข่ายในพื้นที่หรือเป็นเพียงจุดนัดรับเท่านั้น นอกจากนี้ยังสั่งการให้ตรวจสอบ Dark Web ที่อ้างว่ามีการเผยแพร่วิธีการนำเบกกิ้งโซดามาผสมกับยาเสพติดเพื่อเพิ่มปริมาณของยาเสพติดด้วย
สำหรับพฤติการณ์ผู้ต้องหา เข้าข่ายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งได้ประสานไปยังทางการไต้หวันในเรื่องการติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 1 รายที่หลบหนีไปได้ก่อนที่ชุดจับกุมจะไปถึง โดยชาวไต้หวันรายนี้มีหน้าที่เป็นคนสั่งซื้อและเป็นนายทุน ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ในช่วงเวลา2-3ปี ที่ผ่านมา พบเงินหมุนเวียนในบัญชีหลักสิบล้าน มีทั้งเงินจากการทำงานในวงการบันเทิงและค้ายาเสพติดด้วย ขณะนี้มีการขยายผล แต่ไม่ขอเปิดเผย เกรงกระทบต่อรูปคดี ทั้งนี้จะเร่งสอบสวนให้แล้วเสร็จ หากทันก็จะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังในวันนี้