การเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยชื่อคณะกรรมการสรรหาส.ว. ว่ามีทั้งสิ้น 10 คน ประกอบด้วย บุคคลที่อยู่และเคยอยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน 5 คน, สมาชิกและอดีตสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 4 คน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 1 คน แต่ต่อมานายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสนช. ได้ขอลาออกจากการเป็นคณะกรรมการสรรหาฯโดยไม่เคยเข้าประชุมแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้คณะกรรมการสรรหาฯเหลือ 9 คน โดยให้แต่ละคนไปสรรหาบุคคลที่เชี่ยวชาญในด้านของตัวเองมาคนละ 50 ชื่อ ยึดหลักสรรหาบุคคลจากแม่น้ำ 5 สาย และบุคคลที่เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ จากนั้นนำรายชื่อ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้ลงมติโดยมีหัวหน้าคสช.เป็นผู้พิจารณาคนสุดท้ายก่อนนำรายชื่อทูลเกล้าฯ
นายวิษณุ ยังชี้แจงว่า ไม่มีบุคคลใดในคณะกรรมการสรรหาเสนอชื่อตัวเองเป็นส.ว. และเหตุที่ไม่เปิดชื่อคณะกรรมการสรรหาฯก่อน เพราะป้องกันการวิ่งเต้น ไม่มีสิ่งใดลึกลับ แล้วแต่สังคมจะตัดสินถึงรายชื่อคณะกรรมการสรรหาฯที่ออกมา และคสช.ได้ส่งรายละเอียดเรื่องนี้ทั้งหมดไปให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้ว ยืนยันว่าไม่มีปัญหา และรายชื่อคณะกรรมการสรรหาส.ว.ก็ไม่เข้าข่ายต้องประกาศลงราชกิจจานุเบกษา พร้อมระบุว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ควรได้เป็นส.ว. แต่ติดจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจึงต้องเป็นส.ว.ตัวสำรอง โดยส.ว.สำรองจะมี 2 บัญชี คือ บัญชีสำรองส.ว.ที่มาจากคณะกรรมการสรรหาฯ 194 คน และบัญชีสำรองที่มาจากการเลือกกันเอง 50 คน แต่ละบัญชีจะไม่ก้าวก่ายกัน เมื่อมีผู้ใดลาออกจากการเป็นส.ว. บัญชีสำรองก็จะเลื่อนไปตามลำดับ พร้อมระบุถึงการมีชื่อพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นส.ว.สำรองว่าจะไม่เกิดปัญหาใด
นายวิษณุ ยังระบุทีเล่นทีจริงว่า กำลังรอพล.อ.ประยุทธ ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาทาบทามให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลหน้า และไม่ขอตอบว่าถ้าทาบทามมาจริงจะรับหรือไม่ แต่หากได้เป็นรองนายกฯต่อก็จะต้องจัดการคุณสมบัติต่างๆของตัวเองให้เรียบร้อย ทั้งนี้ตัวเองได้เตรียมเรื่องให้รัฐบาลชุดนี้ไว้แล้ว เช่น กรณีที่มีข้าราชการผู้ใหญ่จะเกษียณอายุราชการพร้อมกัน 100 กว่าคน ซึ่งจะเป็นภารกิจแรกของรัฐบาลชุดหน้าที่ต้องเร่งสานต่อทันที