*ศาลปกครองสูงสุด ยกคำร้อง คดีบริหารจัดการน้ำ 3.5แสนล้านบาท *

ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษากลับศาลปกครองชั้นต้นยกคำร้องจากกรณีสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนที่ 1 กับพวกรวม 45 คนเป็นผู้ฟ้องคดี นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ 1 กับพวกรวม 4 คนผู้ถูกฟ้อง ในข้อหากระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในโครงการจัดการน้ำ3.5แสนล้านบาท โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แผนแม่บทในการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ไม่เข้าข่ายตามม.57วรรค2 และม.67วรรค2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยตามที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ถูกร้องดำเนินการรับฟังความเห็นจากประชาชน เนื่องจากแผนงานที่จะทำยังเป็นเพียงกรอบแนวคิดในกระดาษ ที่ยังไม่มีความเป็นรูปธรรม แม้จะเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน

ส่วนการฟ้องคดีการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ของอดีตนายกรัฐมนตรีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157  ศาลปกครองไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากไม่อยู่ในอำนาจศาลปกครอง

นาย ศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยอมรับคำพิพากษาของศาล แต่ก็รู้สึกเสียใจ แม้โครงการนี้จะถูกรัฐบาลชุดปัจจุบันยุบทิ้งแล้วก็ตาม  โดยสมาคมได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช. ในคดีนี้เช่นกัน กรณีนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมพวกเปิดประมูลโดยวิธีพิเศษไม่ได้ปฎิบัติตามระเบียบวิธีพัสดุ พ.ศ.2535 ซึ่งจะต้องรอการชี้มูลความผิดจากปปช.อีกครั้ง

นายศรีสุวรรณ ยอมรับว่า จากนี้สมาคมคงต้องเหนื่อยมากขึ้นในการติดตามการทำงานของรัฐบาล แตยืนยันว่าจะติดตามการดำเนินงานของรัฐบาลทุกชุดที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม เช่น แผนป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้งและน้ำเน่าเสียของ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ปัจจุบันสมาคมได้ท้วงติงต่อแผนดังกล่าวว่าควรเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนให้มากกว่านี้ เพื่อการจัดทำแผนที่สมบูรณ์ โดยหากสมาคมเห็นว่าการจัดทำแผนดังกล่าวมีโอกาสเกิดปัญหาต่อประชาชนในพื้นที่ ก็พร้อมที่จะฟ้องร้องคดีต่อศาลทันที