กรณีที่เมื่อวันศุกร์มีฝนตกหนักน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานครหรือ กทม.เป็นเวลานาน และการตั้งข้อสังเกตว่าการที่น้ำไม่สามารถระบายออกไปได้เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ของกทม.กีดขวางทางน้ำ
นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.และรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาขยายทางน้ำและให้ชุมชนที่กีดขวางทางน้ำออกไป ซึ่งแล้วเสร็จไปแล้วในส่วนเขตสายไหมแล้ว แต่ยังไม่ได้ขุดลอกคลองทั้งหมด โดยอยู่ระหว่างดำเนินการขุดลอกสิ่งกีดขวางทางน้ำจากลำคลองไปได้ 7 กิโลเมตรแล้วจากระยะทางทั้งหมด 20 กว่ากิโลเมตร ซึ่งยอมรับว่าไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนเดิมที่อยู่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม นี้ เนื่องจากการส่งคืนพื้นที่และการหาที่อยู่รวมถึงสร้างที่อยู่ใหม่ให้กับชาวชุมชนที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่ส่งผลให้งานส่วนอื่นล่าช้าไปด้วย
ยืนยันว่าในส่วนพื้นที่ลำคลองยังมีพื้นที่เท่าเดิมทางน้ำไม่ได้เสียหายไป แต่เนื่องจากมีการรื้อถอนบ้านเรือนที่รุกล้ำ อาจส่งผลให้ภาพที่ออกมาเหมือนมีการรุกล้ำคลอง พร้อมยืนยันว่า กทม.ได้เตรียมรับมือเรื่องการระบายน้ำในทุกด้านทั้งการระบบท่อระบายน้ำ ลอกท่อ ระบบสูบน้ำ การจัดการคูคลอง ส่งผลให้น้ำที่มีปริมาณท่วมขังสามารถระบายได้เร็วขึ้น 1-2 ชั่วโมง แต่ระบบท่อระบายน้ำในถนนกทม.สามารถรับน้ำได้เพียงแค่ 60-80 มิลลิเมตร ซึ่งเกินกำลังที่จะสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสูงมากถึง 120-130 มิลลิเมตรได้ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมถนนสักระยะก่อนที่จะถูกระบายออกไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการระบบขยายท่อระบายให้ใหญ่ขึ้นและระบบระบายน้ำออกได้เร็วขึ้นโดยนำร่องในพื้นที่จุดอ่อนเช่นถนนสุขุมวิท ซอยลาซาล-แบริ่ง ถนนศรีอยุธยา ถนนเยาวราช และจะดำเนินการให้ทั่วพื้นที่ต่อไป
...
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี
แฟ้มภาพ