นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการตรวจหาสารปนเปื้อนในกัญชาของกลาง จำนวน 22 ตัน คาดว่า จะส่งมอบกัญชาของกลางในส่วนที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ภายในกลางเดือนมิถุนายนนี้ จากการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางเพื่อการศึกษาวิจัยการจัดหาและการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ภายหลังพ้นกำหนดนิรโทษกรรม 90 วัน สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานหน่วยจับกุมของชะลอการเผาทำลายของกลางกัญชา เพื่อขออนุญาตครอบครองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อนจากกัญชาของกลาง จาก 43 คดี น้ำหนักรวม 22 ตัน (จับกุมได้ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2561-31 มี.ค. 2562) ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ส่งตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนชนิดโลหะหนักและยาฆ่าแมลงที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยผลการตรวจวิเคราะห์ มีดังนี้ กัญชาของกลาง จำนวน 7 กิโลกรัม ไม่พบการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง และโลหะหนัก กัญชาของกลาง จำนวน 2,097 กิโลกรัม ไม่พบการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง แต่ตรวจพบแคดเมียม มีค่าเกินมาตรฐาน กัญชาของกลาง จำนวน 16,137 กิโลกรัม ตรวจพบยาฆ่าแมลง และพบแคดเมียมเกินค่ามาตรฐาน
หลังจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการพิจารณาสนับสนุนกัญชาของกลางที่ตรวจไม่พบการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง และโลหะหนัก ให้หน่วยงาน/สถาบันการศึกษาที่มาขอใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 10 แห่ง (รวมจำนวนประมาณ 2.3 ตัน) ให้ไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่แจ้ง โดยจะส่งมอบกัญชาให้ได้ภายในกลางเดือนมิถุนายน 2562 สำหรับกัญชาของกลาง ที่ตรวจแล้วเกินค่ามาตรฐาน จำนวน 16 ตัน จะนำไปทำลาย ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายนิยม กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ยินดีสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัย และขอเตือนประชาชนในการใช้สารสกัดจากกัญชาโดยเฉพาะสารสกัดกัญชาที่มาจากตลาดมืด เป็นไปได้ว่าไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัยทางการแพทย์ และอาจมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ในช่วงนี้ มีการจัดประชุมหรืออบรมสัมมนาให้ความรู้ในประเด็นดังกล่าวทั้งในรูปแบบเสียค่าใช้จ่าย และไม่เสียค่าใช้จ่าย ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการเข้าร่วมการอบรมสัมมนาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ และหากต้องการใช้กัญชาเพื่อการบำบัดรักษาโรค ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ วินิจฉัย หรือสั่งใช้กัญชา หรือสารสกัด เพื่อการบำบัดรักษาโรค ซึ่งจะได้กัญชาหรือสารสกัดที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ และสามารถใช้ได้โดยไม่เป็นความผิดทางกฎหมาย
CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ป.ป.ส.