การรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน กรมชลประทาน เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำร้อยละ50 เป็นไปตามที่คาดไว้ว่าในวันที่1พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเริ่มเพาะปลูก จะนำน้ำที่สำรองไว้ออกมาใช้ทั้งการเกษตร การอุปโภคบริโภค พื้นที่ลุ่มต่ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาก็ส่งน้ำให้เกษตรกรตามแผนเช่นกัน ขณะนี้มีการเพาะปลูกเกือบเต็มพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ไว้ว่าปลายเดือนมิถุนายน-ต้นเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่ฝนทิ้งช่วงเล็กน้อย จะต้องนำน้ำจากเขื่อนมาใช้ และในเดือนสิงหาคม-เดือนตุลาคม จะมีฝนมาก กรมชลประทาน ใช้เครื่องมือใหม่วัดปริมาณน้ำและควบคุมปริมาณไม่ให้เกิดผลกระทบ เนื่องจากช่วงปลายฤดูฝนจะต้องเก็บน้ำให้ได้มากที่สุดไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูแล้ง ซึ่งการกักเก็บน้ำจะต้องไม่ให้กระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำหรือท้ายเขื่อน
ส่วนการวางแผนป้องกันอุทกภัยในพื้นที่สุ่มเสี่ยงจะเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์เข้าไปรองรับล่วงหน้า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงภาคเหนือ ในจังหวัดน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ จะเป็นพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นต้นไป ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคเหนือตอนบน ตั้งแต่เดือนกันยายน ส่วนภาคกลางตั้งแต่เดือนตุลาคม-เดือนกันยายน จากนั้นจะเข้าสู่ภาคใต้ ตามร่องมรสุม นายทองเปลว ฝากถึงเกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทาน ขอให้ทำตามแผนที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เช่น พื้นที่ลุ่มให้เพาะปลูกก่อน เนื่องจากสุ่มเสี่ยงน้ำท่วมขัง จากนั้นเป็นพื้นที่ดอนตามลำดับ หากเพาะปลูกพร้อมกันจะเกิดปัญหาเรื่องของปริมาณน้ำได้
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ