ทันสถานการณ์โลก ประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2562
+++นายวิลลี แลม อาจารย์จากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงและนักวิเคราะห์การเมืองจีน เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า เครื่องบินของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของประเทศจีนไปถึงสนามบินเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวานนี้ โดยผู้นำจีนจะเยือนรัสเซีย 3 วัน เพื่อพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ย้ำถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศทั้งสอง และร่วมงานรำลึกครบรอบ 70 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสอง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำจีน อาจจะมุ่งแสดงให้สหรัฐฯเห็นว่า ประเทศจีนและรัสเซียในฐานะพันธมิตรสามารถจะร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่รัฐบาลจีนเรียกว่า การกระทำตามอำเภอใจของสหรัฐฯ
+++การเยือนรัสเซียในครั้งนี้มีขึ้นหลังสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯสร้างแรงกดดันที่อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย หลังจากการเจรจาการค้าล้มเหลวเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนเป็นร้อยละ 25 รวมมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะเดียวกันประเทศจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯรวม 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
+++ด้านกองเรือที่ 7 กองทัพเรือสหรัฐฯซึ่งมีฐานปฏิบัติงานอยู่ในเมืองโยโกซูกะ ญี่ปุ่น ระบุในแถลงการณ์ว่า รัสเซียได้ส่งเครื่องบินรบรุ่นซู-35 ลำหนึ่งบินตามประกบเครื่องบินลาดตระเวนรุ่นพี-8 โพไซดอน ของสหรัฐฯ ขณะบินเหนือน่านฟ้าสากลในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เครื่องบินรบของทั้งสองฝ่าย เผชิญหน้ากันรวม 3 ครั้ง ขณะบินในน่านฟ้าสากลราว 175 นาที กองเรือที่ 7 ตั้งข้อสังเกตว่า การเผชิญหน้ากันในครั้งที่ 2 จากทั้งหมด 3 ครั้งอยู่ในระยะไม่ปลอดภัยเนื่องจากเครื่องบินรบรัสเซียบินด้วยความเร็วสูงตัดหน้าเครื่องบินลาดตระเวนของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะทำให้นักบินและเครื่องบินลาดตระเวนของสหรัฐฯเสี่ยงได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศ พร้อมตำหนิพฤติกรรมนี้ของรัสเซียว่าไร้ความรับผิดชอบ พร้อมยืนยันว่าเครื่องบินของสหรัฐฯปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและไม่ได้มีการยั่วยุทางทหารกับฝ่ายรัสเซีย
+++ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของสหราชอาณาจักร พร้อมผู้นำจาก 15 ประเทศในฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา เดินทางไปที่เมืองพอร์ตสมัท แถบชายฝั่งทางภาคใต้ของสหราชอาณาจักร ร่วมพิธีรำลึกวันยกพลขึ้นบกที่แคว้นนอร์ม็องดี ฝรั่งเศส ของฝ่ายพันธมิตร เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2487 หรือ 75 ปีก่อน
+++สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พร้อมนักการเมืองจากทุกพรรคการเมืองในสหราชอาณาจักร รวมถึงนายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน เข้าร่วมในพิธีเช่นกัน หลังจากเสร็จพิธีแล้ว นายทรัมป์ พร้อมนางเมลาเนีย ได้เดินทางกลับสหรัฐฯ หลังจากเสร็จภารกิจการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรรวม 3 วัน จากร่างคำแถลงที่มีการเผยแพร่ทางสื่อ ชี้ว่า นางเมย์ ยกย่องวีรกรรมของทหารที่ร่วมยุทธการยกพลขึ้นบกที่นอร์ม็องดี ระบุว่า ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความมุ่งมั่นของทหารในการต่อสู้เพื่อปกป้องเสรีภาพของประชาชนยังคงเป็นบทเรียนให้อนุชนจดจำสืบมาถึงปัจจุบัน
+++ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 5 สัปดาห์ แตะระดับสูงสุดเกือบ 2 ปี สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (5 มิ.ย.) พุ่งแรง นักลงทุนคาดหมายว่าเฟดจะเคลื่อนไหวปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 207.39 จุด (0.82 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,539.57 จุด แนวโน้มที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยและสัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแอในสหรัฐฯ ช่วยดันราคาทองคำในวันพุธ (5มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,333.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างตำรวจนิวซีแลนด์ว่า ทีมกู้ภัยของนิวซีแลนด์รวม 50 คน รวมทั้งตำรวจ-ทหารและอาสาสมัครอยู่ระหว่างการค้นหานายดาร์เรน ไมเออร์ นักไต่เขาชาวอังกฤษวัย 49 ปี หลังจากสูญหายระหว่างการไต่เขาในอุทยานแห่งชาติทารารัว ชานกรุงเวลลิงตัน เมื่อ 5 วันก่อน เจ้าหน้าที่อุทยาน คาดว่า นายไมเออร์ จะเดินทางกลับมาตั้งแต่บ่ายวันเสาร์หลังไต่เขาเสร็จ แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่อุทยานไม่เห็นเขากลับมา จึงร่วมกันค้นหานายไมเออร์ ซึ่งเป็นพลเมืองอังกฤษ แต่ในปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในกรุงเวลลิงตัน ตำรวจ กล่าวว่าอุปสรรคของการค้นหาคือสภาพอากาศแปรปรวน หิมะตกหนัก ทัศนวิสัยที่ไม่เอื้ออำนวย ถ้าท้องฟ้าเปิด ตำรวจจะใช้เฮลิคอปเตอร์บินค้นหาทางอากาศ ขณะที่ นางคิม ชอว์ ภริยาของนายไมเออร์ บอกกับสื่อท้องถิ่นหวังว่าสามียังมีชีวิตอยู่และหวังว่าทีมกู้ภัยจะสามารถค้นหาสามีของเธอพบโดยเร็ว
+++หลังเรือท่องเที่ยวชื่อเมอร์เมด ที่บรรทุกนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ 33 คนและลูกเรือฮังการี 2 คน รวม 35 คน พลิกคว่ำและจมในแม่น้ำดานูบ ของฮังการี เมื่อวันพุธที่แล้ว หลังถูกเรือสำราญลำหนึ่งชนบริเวณท้ายเรือ ล่าสุด นายซุง กึนซง อุปทูตฝ่ายทหารของเกาหลีใต้ เปิดเผยกับนักข่าวในกรุงบูดาเปสต์ว่า นักประดาน้ำเกาหลีใต้และฮังการี ได้พบศพนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เพิ่มอีกหนึ่งศพอยู่ในซากเรือ ทำให้ขณะนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่เสียชีวิตรวม 13 ศพ ได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย 7 คนและมีผู้สูญหาย 17 คน ในจำนวนนี้รวมถึงชาวเกาหลีใต้ 15 คน ส่วนอีก 2 คน คือลูกเรือชาวฮังการี ทีมกู้ภัย พบหนึ่งใน 2 ศพที่เก็บกู้จากแม่น้ำเมื่อวานนี้ ลอยไปยังบริเวณปลายน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุเรือล่มราว 37 ไมล์ ย้ำถึงความยากลำบากในการค้นหา ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยอยู่ระหว่างหารือแผนกู้เรือขึ้นมาจากแม่น้ำในลักษณะที่ไม่เกิดความเสียหายแก่ตัวเรือและศพที่ติดอยู่ในเรือ
+++นายจันนี อินฟันตีโน ทนายความชาวอิตาลีเชื้อสายสวิสวัย 49 ปีได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมฟีฟ่าคองเกรสในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ให้ทำหน้าที่บริหารองค์กรฟีฟ่าต่อเป็นสมัยที่ 2 โดยไม่มีผู้เสนอตัวแข่งขัน ในการปราศรัยหาเสียงในที่ประชุมก่อนลงมติเลือกตั้งประธานคนใหม่ในวันนี้ นายอินฟันตีโน ระบุว่า เขาได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ขององค์กรฟีฟ่าให้กลับมาเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกจากเดิมถูกมองในแง่ลบและมีปัญหาเรื่องการทุจริต ก่อนหน้านี้ นายอินฟันตีโน ได้รับการเลือกจากที่ประชุมฟีฟ่าคองเกรสให้ดำรงตำแหน่งประธานฟีฟ่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ต่อจากผู้นำคนก่อนคือนายเซพพ์ บลัทเทอร์ ชาวสวิสวัย 83 ปี
ทีมต่างประเทศ