ธนาธร แสดงวิสัยทัศน์ นอกห้องประชุม ขอเป็นนายกฯแห่งความจริง

ภายหลัง นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ขอถอนญัตติเรื่องการขอให้ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ออกไป ในการประชุมร่วมรัฐสภาของส.ส.และสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ที่หอประชุมใหญ่ TOT แจ้งวัฒนะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หรือ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ในฐานะผู้ที่พรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เฝ้าติดตามการประชุมสภาฯอยู่นั้น ออกมาแถลงวิสัยทัศน์นอกสภา ฯ โดนนายธนาธร กล่าว่า ขอโอกาสส่งข้อความนี้ไปยังประชาชนคนไทยว่า ตนได้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย ซึ่งใครอยากเห็นสังคมไทยเคารพสิทธิ์และเสียงของประชาชน นั้นคือมีความคิดเหมือนตน ดังนั้นหากตนเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความจริงด้วยความเปลี่ยนแปลงและนำพาประเทศไทยไปข้างหน้า

บรรยากาศการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ที่หอประชุมใหญ่ TOT ถนนแจ้งวัฒนะ  หลังจากพรรคพลังประชารัฐได้เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ พรรคอนาคตใหม่ได้เสนอชื่อนายธนาธร ร่วมชิงตำแหน่ง นายจิรวัฒน์ ได้เสนอญัตติขอให้เปิดอภิปรายเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และขอให้บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีมีโอกาสได้แสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุม

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานการประชุม ระบุว่าที่ประชุมไม่ได้มีข้อบังคับในเรื่องนี้จึงขอมติจากที่ประชุม  จากนั้นนายวีระกร คำประกอบ ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวขัดกับญัตติ ในการเลือกนายกรัฐมนตรีและจะทำให้ญัตติที่กำลังพิจารณาอยู่ต้องตกไป เช่นเดียวกับน.ส.ภาดาห์ วรกานนท์ พรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอญัตติ ขอไม่ให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ เพราะการแสดงวิสัยทัศน์ไม่มีอยู่ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และที่ผ่านมาไม่เคยมีการแสดงวิสัยทัศน์ รวมถึงบุคคลที่ถูกเสนอชื่อก็เป็นบุคคลสาธารณะย่อมเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

ทั้งนี้ หลังจากการถกเถียงผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯกว่าชั่วโมง นายจิรวัฒน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จึงได้ขอถอนญัตติ ในเรื่องการขอให้แสดงวิสัยทัศน์ออกไป ทำให้ขณะนี้ที่ประชุมได้เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนในการอภิปรายคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนจะมีการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป

อย่างไรก็ตาม ระหว่างสมาชิกกำลังอภิปราย ในเวลา 12.20 น.บรรดาส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ได้ลุกออกจากที่ประชุมคาดว่าจะเป็นการออกไปรับประทานอาหารกลางวัน