ทันสถานการณ์โลก ประจำวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2562

ทันสถานการณ์โลก ประจำวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2562

+++บีบีซี รายงานอ้างตำรวจออสเตรเลียว่า มีคนเสียชีวิต 4 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 2 คน หลังจากมือปืนรายหนึ่งบุกเข้าไปกราดยิงที่ห้องพักของโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองดาร์วิน ทางภาคเหนือของออสเตรเลีย เมื่อเวลา 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เหตุกราดยิงทำให้ผู้เข้าพักหลายคนหลบหนีออกจากห้องพักด้วยอาการตื่นตระหนก ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ในอีก 1 ชั่วโมงต่อมาและอยู่ระหว่างสอบสวน เบื้องต้น ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุคนเดียว เหตุสังหารหมู่เช่นนี้เกิดขึ้นน้อยมากในออสเตรเลียนับตั้งแต่แก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาวุธปืนเมื่อปี 2539 หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ในรัฐแทสเมเนีย มีคนเสียชีวิต 35 ศพ

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งเริ่มเดินขบวนจากจัตุรัสทราฟัลการ์ในกรุงลอนดอน มุ่งหน้าไปที่อาคารรัฐสภาเพื่อคัดค้านการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พร้อมทั้งมีการลอยหุ่นลมรูปทารกยักษ์ขึ้นสู่ท้องฟ้าใกล้กับอาคารรัฐสภา โดยหุ่นลมรูปทารกนี้มีทรงผมและคิ้วเหมือนหน้าของนายทรัมป์ ผู้ประท้วงหลายคนถือแผ่นป้ายมีข้อความว่า ขอต่อต้านการเหยียดผิวขอต่อต้านการเยือนของนายทรัมป์ พร้อมตะโกนว่า พวกเราไม่ขอต้อนรับการเดินทางเยือนของนายทรัมป์ ผู้ประท้วงหลายคนโบกธงของกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู เพื่อคัดค้านการถอนตัวออกจากกลุ่มอียู หรือเบร็กซิต พร้อมทั้งคัดค้านการเดินทางเยือนของนายทรัมป์ แต่ภาพที่สะดุดตาหลายคนอีกอย่างคือ ภาพหุ่นยนต์ตัวหนึ่งหน้าตาคล้ายนายทรัมป์ ขนาดสูง 16 ฟุต ใส่เสื้อสูท ถอดกางเกง นั่งอยู่บนชักโครกทองคำ พร้อมถือสมาร์ทโฟนเพื่อส่งข้อความทางทวิตเตอร์ โดยผู้ประท้วงช่วยกันลากหุ่นยนต์นี้ไปตามถนน ขณะเคลื่อนที่หุ่นยนต์นี้พูดถ้อยคำต่างๆที่นายทรัมป์ ชอบพูดอยู่เป็นประจำ เช่น ไม่เคยสมคบกับรัสเซีย และคำว่าพวกคุณเสนอข่าวเท็จ

+++ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลังการประชุมที่บ้านหมายเลข 10 บ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในกรุงลอนดอน นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของสหราชอาณาจักรและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้แถลงข่าวร่วมกันระหว่างเวลา 20.12 น.-20.33 น.ตามเวลาในประเทศไทย นางเมย์ เริ่มต้นการแถลงร่วมกันด้วยการชื่นชมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างเธอกับนายทรัมป์ แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่อง นางเมย์ ขอบคุณนายทรัมป์ และรัฐบาลสหรัฐฯกรณีการเนรเทศทูตรัสเซียหลังเกิดเหตุลอบวางสารพิษเพื่อสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวในสหราชอาณาจักรเมื่อปีที่แล้ว พร้อมย้ำว่า สหรัฐฯและสหราชอาณาจักร จะยืนหยัดเคียงข้างกันเช่นนี้และจะทำงานร่วมกันต่อไป 

+++ด้านนายทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะเริ่มเจรจาเรื่องข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักร หลังถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู แล้ว มีโอกาสมากมายที่จะเกิดจากการค้าขายระหว่างประเทศทั้งสองในยุคหลังเบร็กซิต พร้อมกล่าวถึงเรื่องเบร็กซิตว่าควรจะเกิดขึ้นและจะเกิดผลดีในเรื่องของการมีอำนาจจัดการเรื่องชายแดนและบริหารกิจการภายในประเทศ

+++นายโมฮัมหมัด จาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯระบุในทวิตเตอร์ว่า การคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯว่าเป็นการทำสงครามทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งจะทำให้พลเมืองอิหร่านผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อน ระบุว่า อิหร่านจะไม่ยอมเจรจา ถ้าหากสหรัฐฯไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรก่อน นอกจากนั้น ยังได้โพสต์ คลิปวิดีโอของสตรีคนหนึ่ง ซึ่งกล่าวว่า ลูกชายของเธอต้องการขาเทียม แต่เขาไม่อาจจะหาซื้อขาเทียมมาใช้ได้  จากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ นายซาริฟ ได้แสดงความเห็นเรื่องนี้ หนึ่งวันหลังนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯพูดเป็นนัยว่าสหรัฐฯอาจจะจัดให้มีการเจรจากับอิหร่านโดยไม่ตั้งเงื่อนไขต่างๆล่วงหน้าในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ถ้าอิหร่านยอมเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆไปในลักษณะที่ไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของตะวันออกกลาง

+++ราคาน้ำมันฟื้นตัวเล็กน้อย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ ปิดที่ 53.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 61.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังราคาน้ำมันขยับลงอย่างต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีตอบโต้กันไปมา ซึ่งกระพือข้อวิตกว่ามันอาจกัดเซาะอุปสงค์ทางพลังงาน

++++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(4มิ.ย.) พุ่งแรง หลังจากประธานธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) ส่งสัญญาณเปิดกว้างยิ่งขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 512.40 จุด (2.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,332.18 จุด หลังมีการแสดงความเห็นของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดทำให้วอลล์สตรีททะยานยิ่งขึ้น และช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของนักลงทุนให้มองสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

+++ส่วนราคาทองคำโคเม็กซ์ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.50  เหรียญต่อออนซ์ ราคาอยู่ที่ 1,330.20 เหรียญต่อออนซ์

+++สำนักข่าวยอนฮับ รายงานอ้างกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ว่า ทีมนักประดาน้ำของเกาหลีใต้สามารถเก็บกู้ศพชาวเกาหลีใต้เพิ่มอีก 2 ศพ หลังเรือท่องเที่ยวชื่อว่าเดอะ เมอร์เมด ของฮังการี ซึ่งมีผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ ล่มในแม่น้ำดานูบ ฮังการี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ทำให้ตัวเลขรวมผู้เสียชีวิตชาวเกาหลีใต้ล่าสุดคือ 9 ศพ  และมีผู้สูญหายอีก 19 คน คือชาวเกาหลีใต้ 17 คน และ ชาวฮังการี 2 คน กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ อ้างอิงข้อมูลล่าสุดจากทีมนักประดาน้ำเกาหลีใต้ ที่ปฏิบัติงานในแม่น้ำดานูบร่วมกับหน่วยกู้ภัยของฮังการี ระบุว่า ศพแรกเป็นชายอายุ 60 ปี หน่วยกู้ภัยพบศพลอยอยู่กลางแม่น้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุเรือล่มราว 132 กิโลเมตร จากนั้นพบศพที่ 2 เป็นสตรีวัย 50 ปีเศษ

+++พลจัตวาเดดี ปราเซตโย โฆษกตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วที่เกิดเหตุระเบิดโบสถ์คริสต์และสถานีตำรวจในเมืองสุราบายา ทำให้มีคนเสียชีวิตกว่า 30 ศพ ทำให้ตำรวจจับกุมสมาชิกกลุ่มติดอาวุธหลายร้อยคน ล่าสุด เมื่อค่ำวานนี้ ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายด้านนอกสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเมืองสุโกฮาร์โจ จังหวัดชวากลาง ซึ่งตรงกับวันฉลองการสิ้นสุดเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม ทำให้คนร้ายที่เป็นชายชาวอินโดนีเซีย วัย 22 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล การก่อเหตุครั้งนี้ไม่สำเร็จ ไม่มีใครบาดเจ็บ นอกจากคนร้ายที่บาดเจ็บที่มือขวาและท้อง เมื่อคนร้ายหายจากอาการบาดเจ็บ ตำรวจจะสอบสวนเพื่อหาเหตุจูงใจต่อไป เบื้องต้น ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)

+++เฟซบุ๊ก (Facebook) เปิดบริการใหม่ให้ผู้ใช้สร้างตัวการ์ตูนหน้าเหมือนตัวเองเพื่อพูดคุยและแสดงความคิดเห็น เริ่มที่ออสเตรเลียแล้วจึงขยายไปทั่วโลกช่วงปลายปีนี้หรือปีหน้า คาดแข่งแรงกับบริการบิตโมจิ (Bitmoji) ของสแนปแชต (Snapchat) รายงานจากสำนักข่าวเทคครันช์ (TechCrunch) ระบุว่าบริการใหม่นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างตัวการ์ตูนดิจิทัลที่ปรับแต่งได้เอง เพื่อแสดงแทนตัวเองในข้อความแชตของบริการแมสเซนเจอร์ (Messenger) และความคิดเห็นฟีดข่าว (News Feed) โดยปัจจุบัน ฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดให้เฉพาะผู้ใช้ในออสเตรเลีย คาดว่าผู้ใช้ Facebook ทั้งหมดจะสามารถสร้าง Avatar ได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า สำหรับฟีเจอร์ Avatar ของ Facebook ผู้ใช้จะเริ่มสร้างรูปประจำตัวด้วยการเลือกเพศการ์ตูน จากนั้นปรับแต่งรายละเอียดโครงหน้าและเสื้อผ้าหลายสิบแบบ จุดนี้ Facebook มองว่าการ์ตูน Avatar มักจะมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนในรูปโปรไฟล์หรือในกลุ่ม เฟซบุ๊กระบุว่า เราต้องการทำให้แน่ใจว่า ระบบจะไม่แสดงอะไรที่ตรงข้ามกับภาพถ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากในระบบวิเคราะห์ใบหน้า