สำนักข่าวบลูกเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า เหตุผลที่ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกร้อยละ 5 คือการเห็นว่าเป็นช่องทางในการหางบประมาณมาเพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก นับเป็นความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะผลักดันให้โครงการดังกล่าวบรรลุผลตามที่เคยหาเสียงเลือกตั้งไว้
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า แผนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกดำเนินการอย่างลับๆ ภายในทำเนียบขาว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทนการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเห็นว่าการขึ้นอัตราภาษีดังกล่าวอาจกระทบต่อแผนการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีภายในภูมิภาคอเมริกาเหนือ คำประกาศแผนการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกของประธานาธิบดีทรัมป์มีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากเขาเพิ่งประกาศยกเลิกการใช้มาตรการกำแพงภาษีเหล็กนำเข้าจากเม็กซิโกเพียงไม่กี่วัน
นักวิเคราะห์มองว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์เกิดจากประเด็นการค้าและความพยายามยุติการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของชาวเม็กซิโก ซึ่งยังเป็นนโยบายหาเสียงหลักของประธานาธิบดีทรัมป์ในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 ในปีหน้าด้วย
ด้านนางโทริ ไวทิง นักเศรษฐศาสตร์การค้า ประจำมูลนิธิเฮอริเทจในสหรัฐฯ เห็นว่า การตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ จะกระทบต่อผู้บริโภคสินค้าในสหรัฐฯ โดยตรง ตั้งแต่ อโวควาโดไปจนถึงอะไหล่รถยนต์ และจะกระทบต่อความพยายามแก้ปัญหาบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก รวมทั้งการเดินหน้าการจัดทำข้อตกลงทางการค้าในภูมิภาคอเมริกาเหนือด้วย