มีการติดตามบทบาทของนายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะของญี่ปุ่น ที่พูดระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ว่าประสงค์จะช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ นายเซย์เอ็ด อับบาร์ มูซาวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านอยู่ระหว่างประสานงานกับญี่ปุ่น เพื่อกำหนดวันเดินทางเยือนอิหร่านของนายกรัฐมนตรีอาเบะ หากการเดินทางเยือนเกิดขึ้นจริง นายอาเบะ จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของญี่ปุ่นที่เดินทางเยือนอิหร่านนับแต่ยุคปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเมื่อปี 2522 คาดว่า อาจจะมีขึ้นช่วงกลางเดือนมิถุนายน สำหรับต้นเหตุของปัญหาข้อพิพาทของสหรัฐฯมีขึ้นหลังจากสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างประเทศที่ลงนามกับอิหร่านเมื่อปี 2558 และเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านอีกครั้ง ขณะที่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เปิดเผยว่า ในระยะนี้ อิหร่านจะไม่ยอมเจรจากับสหรัฐฯ ไม่ให้ความสำคัญกับคำพูดต่างๆของผู้นำสหรัฐฯ แต่สิ่งที่อิหร่านให้ความสำคัญคือ การเปลี่ยนแนวทางหรือพฤติกรรมต่างๆของรัฐบาลสหรัฐฯให้แตกต่างจากที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ผลการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของนายทรัมป์ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันเสาร์ เป้าหมายหลักคือ การเฉลิมฉลองการเป็นพันธมิตรของสองประเทศ ขณะที่ในมุมมองของญี่ปุ่น ต้องการใช้ทริปนี้เพื่อเอาอกเอาใจนายทรัมป์ก่อนการเจรจาการค้าซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่สหรัฐฯเรียกร้องการเข้าถึงตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะได้ผล เพราะนายทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า จะไม่มีการดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้จนกว่าการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของญี่ปุ่นจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม ไฮไลต์สำคัญของการเดินทางเยือนคือการเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะที่เพิ่งขึ้นครองราชย์เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากพระราชบิดาทรงสละราชสมบัติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบสองศตวรรษ ขณะที่ผู้นำประเทศอื่นๆ ต้องรอจนถึงงานเฉลิมฉลองใหญ่ในเดือนตุลาคม นายทรัมป์และนางเมลาเนีย ภรรยา กลับได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ เมื่อเช้าวันจันทร์ ที่พระราชวังอิมพีเรียล และยังได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำสหรัฐฯ และภรรยา
การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร(เบร็กซิต) เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลังจากนางเทเรซ่า เมย์ แถลงว่ามีแผนลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม โดยมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เพื่อเปิดทางให้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาบริหารประเทศแทน นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เคยบอกว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมือง หากเลือกหนทางแห่งการเบร็กซิตโดยปราศจากข้อตกลง ซึ่งถือเป็นการตำหนินายบอริส จอห์นสัน ตัวเต็งลุ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ที่บอกเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าสหราชอาณาจักร ควรถอนตัวออกจากอียูในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีข้อตกลงหรือไม่ก็ตาม
นายฌอง คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยว่า อียูจะไม่เจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงเบร็กซิตที่เคยเห็นชอบกับนางเมย์ ภายใต้กฎหมายที่ตอนนี้มีผลบังคับใช้แล้ว สหราชอาณาจักรจะออกจากอียูโดยอัตโนมัติในวันที่ 31 ตุลาคม โดยปราศจากข้อตกลง จนกว่ารัฐสภาจะเห็นชอบข้อตกลงหรืออียูจะอนุมัติขยายเวลา หรือรัฐบาลกลับลำเพิกถอนการตัดสินใจถอนตัวผู้นำกลุ่มอียู เดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม เพื่อเริ่มต้นการคัดเลือกประธานคณะกรรมาธิการแห่งยุโรปคนใหม่แทนนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ครบวาระ 5 ปีในปีนี้ ตามกฎหมายสนธิสัญญาของกลุ่มอียู คณะมนตรียุโรป ประกอบด้วยผู้นำของรัฐสมาชิกอียูทั้ง 28 ประเทศ จะเป็นผู้เสนอชื่อประธานคณะกรรมาธิการยุโรป จากนั้นที่ประชุมรัฐสภาชุดใหม่แห่งยุโรป ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 751 คน จะให้สัตยาบันว่าสมควรจะรับรองให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งนั้นหรือไม่ สำหรับตัวเก็งที่มีโอกาสจะได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง รวมถึงนายแมนเฟรด เวเบอร์ ชาวเยอรมัน วัย 47 ปี ปัจจุบันเป็นสมาชิกรัฐสภาแห่งยุโรป นายฟรานซ์ ทิมเมอร์มานส์ ชาวดัตช์ วัย 58 ปี ปัจจุบันเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นางมาเกรเด เวสเทเออร์ ชาวเดนมาร์ก วัย 51 ปี ปัจจุบันเป็นกรรมาธิการด้านการแข่งขันของอียู และนางสกา เคลเลอร์ ชาวเยอรมัน วัย 37 ปี สมาชิกรัฐสภาแห่งยุโรป
นางสาวเยียว บี ยิน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมของมาเลเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลมาเลเซีย จะส่งขยะพลาสติกหนักรวม 3,000 ตันในตู้คอนเทนเนอร์รวม 60 ใบกลับไปยัง 14 ประเทศต้นทาง ในจำนวนนี้ รวมถึงสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส แคนาดา ออสเตรเลีย และ สหราชอาณาจักร เธอกล่าวเรื่องนี้ระหว่างการตรวจเยี่ยมท่าเรือกลัง ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ระบุว่า เป็นขยะที่ถูกนำเข้าโดยผิดกฎหมายและละเมิดกฎหมายสิ่งแวดล้อมของมาเลเซีย ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เตของฟิลิปปินส์ มีคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้หน่วยงานรัฐจ้างบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือให้จัดส่งตู้คอนเทนเนอร์บรรจุขยะรวม 69 ตู้กลับยังประเทศต้นทางคือ แคนาดา พร้อมกำชับให้ผู้รับขนส่งสินค้าปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ขยะทิ้งไว้ในน่านน้ำของแคนาดา ถ้าหากแคนาดาไม่ยอมรับตู้ขยะกลับคืน ซึ่งแคนาดา ยืนยันว่าจะมานำขยะกลับไป
CR:CNN
สหรัฐฯ ยืนยันต้องการกดดันให้เข้าร่วมเจรจา ไม่ต้องการล้มระบบปกครองอิหร่าน
...
รัฐสภาอิหร่าน มีมติเอกฉันท์ปิดช่องแคบฮอร์มุซ รอผู้นำสูงสุดเห็นชอบ เป็นขั้นตอนสุดท้าย
...
ทบ.ยืนยันไม่ได้ละเมิดข้อตกลง นำนักปั่นจักรยานเยี่ยมปราสาทตาเมือนธม
...
ข่าวทั้งหมด
