ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. 27 พฤษภาคม 2562

เศรษฐกิจวันนี้ติดตามผลกระทบจากมาตรการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ให้ประเมินสถานการณ์สินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์นำเข้าที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ โดยอาจขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากร้อยละ 2.5 เป็นร้อยละ 25 นั้น นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หรือ พณ. เปิดเผยว่า จากการพิจารณาขอบเขตของสินค้าที่อาจเข้าข่ายพบว่า สัดส่วนการนำเข้าจากไทยอยู่ในระดับต่ำมาก จึงไม่น่าเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แต่ต้องติดตามการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับสหภาพยุโรป และสหรัฐฯกับญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด

นางอรมน กล่าวอีกว่า ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีเอ็ม ในเดือนกันยายนนี้ ที่ประเทศไทย รัฐมนตรีอาเซียน มีกำหนดการประชุมร่วมกับประเทศ คู่เจรจา 11 ประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย สหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐฯ รัสเซีย ซึ่งเป็นอีกเวทีที่ทั้งสหรัฐและจีนจะได้มาพบกันซึ่งจากบรรยากาศการค้าในปัจจุบัน อาเซียนต้องทำหน้าที่เข้มข้นขึ้น เพื่อให้สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นผ่านกลไกที่อาเซียนมีอยู่

ส่วนกรณีผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. เปิดเผยว่า มีความกังวลว่าอาจมีสินค้าที่อยู่ในมาตรฐานบังคับ 112 รายการ จากประเทศจีนเข้าไทย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเหล็ก สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ทำให้สมาคมอุตสาหกรรมทำหนังสือร้องเรียนต่อภาครัฐหลายครั้ง และรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ทั้งพบว่ามีนักลงทุนจีนเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานเหล็กในหลายประเทศของกลุ่มอาเซียน จึงต้องเพิ่มการตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง

โดยในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ จะมีการประชุมเพื่อหารือกับตัวแทนอุตสาหกรรมกว่า 20 สมาคมกลุ่ม เพื่อหารือผลกระทบด้านการส่งออก และจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หรือ กนศ. ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ แห่งประเทศไทย หรือ สรท. เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 30-31 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชนเพื่อรับมือสงครามการค้า โดยบางประเทศเริ่มออกมาตรการกีดกันทางการค้าแล้ว

นางนพรัตน์ วิชิตชลชัย รองผู้ว่าการด้านธุรกิจและปฏิบัติการ การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้ มีผู้ผลิตล้อยางจากจีนและเยอรมนีย้ายโรงงานมาไทย ซึ่งจะทำให้ราคายางพารามีเสถียรภาพมากขึ้น

ส่วนกรณีที่เกาหลีแจ้งตรวจพบกัมมันตภาพรังสีจากหมอนยางพาราที่ผลิตในไทย นางนพรัตน์ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานทูตเกาหลีว่า หมอนยางพาราที่เกาหลีตรวจพบเป็นหมอนที่ผลิตจากไทยจริง แต่เป็นการผลิตตามคำสั่งว่าจ้างของเอกชนเกาหลีที่นำไปขายที่เกาหลี โดยผู้ว่าจ้างให้นำแร่โมนาไซต์ผสมเข้าในผลิตภัณฑ์ อ้างว่าจะช่วยเรื่องสุขภาพ ทำให้การไหลเวียนของเลือดลมดีขึ้น อย่างไรก็ตามในการที่ได้เชิญสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย กระทรวงพาณิชย์ และเอกชนผู้ผลิตหมอนยางพาราเข้าตรวจสอบและชี้แจงที่มา ยืนยันตรงกันว่าแร่โมนาไซต์เป็นอันตราย จึงออกคำสั่งห้ามเอกชน หรือโรงงานยางพาราไทยผสมสารแปลกปลอมเข้าไปในวัตถุดิบยางพาราเพื่อผลิตเป็นหมอนแล้ว

ส่วนเรื่องค่าจ้างแรงงาน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่าการพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างต้องรอความเห็นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่ว่าจะมีนโยบายอย่างไร โดยภาคเอกชนสนับสนุนกลไกแบบลอยตัว แต่มีค่าแรงอ้างอิงแบบขั้นต่ำไว้เพื่อดูแลผู้ด้อยโอกาส แทนการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่ต้องปรับขึ้นทุกปีเช่นปัจจุบัน เนื่องจากไทยอยู่ในภาวะที่ขาดแคลนแรงงานและแรงงานส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับสูงจึงควรขึ้นค่าแรงตามมาตรฐานฝีมือแรงงานให้มากขึ้น

และในวันนี้ยังต้องติดตามกรณีที่มีเหตุไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือบรรทุกสินค้า KMTC HONGKONG สัญชาติเกาหลี บริเวณท่าเทียบเรือ เอ 2 บริษัท ไทยแหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด หรือท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้า วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตู้คอนเทนเนอร์บางตู้บนเรือเกิดระเบิดขึ้นและมีสารเคมีกระเด็นตกทั้งฝั่งทะเลและพื้นถนนท่าเทียบเรือ มีผู้บาดเจ็บ 211 คน ตู้สินค้าเสียหาย 35 ตู้ กรมเจ้าท่ามีคำสั่งห้ามระบายน้ำลงในทะเลเป็นอันขาด และให้ดำเนินการตามวิธีการที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนด โดยนำไปกำจัดให้ถูกต้องตามวิธีการกำจัดสารต่อไป นอกจากนี้ ได้มีการวางบูมรอบตัวเรือ เพื่อป้องกันน้ำมันไหลลงทะเลอีกด้วย รวมทั้งการป้องกันไฟไม่ให้ปะทุขึ้นมาอีก ตลอดจนการติดตามผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

...