*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ช่วงบ่ายนี้ 14.00 น. ติดตามการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อคัดเลือกบุคคลจำนวน 20 คนมาทำหน้าที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายวันชัย สอนศิริ ในฐานะโฆษกคณะกมธ.วิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) กล่าวถึงวิธีการสรรหาสปช.ในการประชุมบ่ายวันนี้ว่าจะให้สมาชิกเลือก 20 คน คือกาไปเลยว่าจะเลือกใครบ้าง จำนวน 20 คน คะแนนใครสูงสุดไล่ลำดับมา 20 คน จะถือว่าเป็นตัวแทนของสปช.ซึ่งคงเป็นการลงคะแนนแบบลับ ผู้เสนอตัวเองจะเลือกตัวเองก็ได้ ไม่มีข้อบังคับกำหนดไว้ว่าเลือกตัวเองไม่ได้ ที่ประชุมวิปตกลงกันว่าแต่ละกลุ่มจะเสนอกี่คนก็ได้ แต่ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกให้เหลือ 20 คน โดยอันดับแรกผู้สมัครจะต้องกรอกใบสมัครก่อน เพื่อยืนยันคุณสมบัติของตัวเองว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และต้องทราบถึงข้อเว้นวรรคทางการเมือง  ส่งใบสมัครได้จนถึงเวลา12.00น. คาดว่าช่วงเย็นนี้จะได้บุคคลทั้ง20 คนในสัดส่วนของสปช.

+++มีรายงานรายชื่อสปช.แต่ละด้านยื่นใบสมัครแล้ว 34 คน เช่น ด้านการเมือง มีนายชัยอนันต์ สมุทวณิช นายชูชัย ศุภวงศ์ นางตรึงใจ บูรณสมภพ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ด้านการปกครองท้องถิ่น มีนายวุฒิสาร ตันไชย นายจรัส สุวรรณมาลา ด้านสังคม มี น.ส.สมสุข บุญญะบัญชา ด้านเศรษฐกิจ มีนายเกริกไกร จีระแพทย์ ด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม มีนายคำนูณ สิทธิ สมาน เป็นต้น

+++ขณะที่สัดส่วนของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 5 คน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. เปิดเผยว่า มี สนช.เข้าสมัครทั้งสิ้น 11 คน ประกอบด้วย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายดิสทัต โหตระกิตย์ นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ นายประมุท สูตะบุตร พล.อ.นิวัติ ศรีเพ็ญ นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ และนายปรีชา วัชราภัย โดยที่ประชุมวิป สนช.มีมติให้ลงคะแนนลับในที่ประชุม สนช. โดยวิธีการแจกบัตรให้สมาชิกเขียนชื่อ จำนวน 5 ชื่อ ซึ่งเป็นการเปิดฟรีโหวต ซึ่งจะดำเนินการลงมติในวันที่ 30 ตุลาคม

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงรายชื่อคณะกมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญในสัดส่วนของ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่ามีการพิจารณาคัดเลือกรายชื่อเสนอมาแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ร่วมกับ คสช.ในวันที่ 4 พ.ย.ก่อน แล้วค่อยเปิดเผยทีเดียว 

+++เรื่องนายจักตา ซิงห์ ทารา ผู้ต้องขังรายสำคัญสัญชาติอินเดีย ที่หลบหนีจากเรือนจำในประเทศอินเดีย และอาจมากบดานอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ โดยเป็นไปตามข้อตกลงการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ถ้าผิดกฎหมายของทางอินเดียก็ต้องส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ทั้งนี้ อินเดียได้มีการประสานงานไปทั่วโลก ยังไม่มีรายงานว่าผู้ต้องหาเข้ามายังประเทศไทยแล้วหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามเรื่องนี้อยู่

+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้เฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้มีการหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ นายจักตาไม่น่าจะรู้จักเกี่ยวข้องกับผู้ใดในประเทศไทย เชื่อว่าต้องการใช้เป็นทางผ่านเพื่อหลบหนีไปประเทศอื่นเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหว มีรายงานระบุว่า ทางการอินเดียขอบคุณทางการไทยด้วย

+++พล.อ.ประยุทธ์ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ครั้งที่ 2  เวลา 09.30น.ที่ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเร่งรัดนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ผู้บริหารของกระทรวงเตรียมรายงานความคืบหน้าแนวทางแก้ปัญหาการก่อสร้างสนามฟุตซอลในโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบด้วย

+++ เรื่องนี้ นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่าได้ดำเนินการตรวจสอบควบคู่กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในการไปตรวจสอบ โดยเวลานี้ถือว่า สพฐ.ได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว เนื่องจาก คณะทำงานที่ลงไปตรวจสอบในพื้นที่ ที่มีปัญหาการสร้างสนามฟุตซอล ทั้ง 12 ชุดได้ส่งรายงานมาเรียบร้อยแล้ว พบว่า มีรายชื่อบุคคล หรือครูที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 600- 700 คน ในวันนี้ จะลงนามแต่งตั้ง คณะกรรมการประมวลข้อมูลและแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีจัดสร้างสนามฟุตซอล ซึ่งมีนางรัตน ศรีเหรัญ รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นประธาน 

+++วันนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ เห็นชอบแต่งตั้งให้นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ขึ้นเป็นอธิบดีดีเอสไอ นางสุวณา เปิดเผยว่า ต้องรอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับการแต่งตั้งจากพล.อ.ไพบูลย์  ให้ทำหน้าที่รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ทำให้สามารถเริ่มทำงานได้ทันที โดยภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายคือ การเข้าไปวางระบบบริหารของดีเอสไอ ให้เป็นไปตามบทบาทและหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด และเป็นที่ยอมรับของสังคม ยอมรับดีเอสไออยู่ในช่วงวิกฤติจำเป็นต้องมีการวางมาตรการและแก้ไขความเสี่ยงซึ่งเชื่อว่าศักยภาพที่มีอยู่ของดีเอสไอจะกู้วิกฤติได้ ส่วนการบริหารงานท่ามกลางภาวะที่ดีเอสไอมีข่าวจะถูกยุบ มองว่าขึ้นอยู่กับคนดีเอสไอเองว่าจะทำให้สังคมมั่นใจได้หรือไม่ ภารกิจแรกจะเรียกประชุมผู้บริหารเพื่อรับทราบปัญหาที่ต้องแก้ไขก่อน เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้เกิดขึ้นอีก ดีเอสไอเป็นกรมพิเศษก็ต้องทำงานให้พิเศษด้วย เพราะถือว่าได้รับสิ่งพิเศษจากรัฐหลายอย่าง

       

+++นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนพร้อม     ด้วยเครือข่ายปฏิรูปพลังงานภาคประชาชนเดินทางเข้ายื่นฟ้องคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและกรมเชื้อเพลิง   ธรรมชาติต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้เพิกถอนมติกพช.ในการให้สัมปทานสิทธิ   สำรวจและผลิตปิโตรเลียมครั้งที่21ของกระทรวงพลังงานเพราะเห็นว่าไม่เป็น  ไปตามขั้นตอนวิธีการที่กฎหมายรัฐธรรมนูญชั่วคราว2557กำหนด วันนี้เครือข่ายการปฏิรูปพลังงานภาคประชาชน เคลื่อนไหวคัดค้านการให้สัมปทานสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมครั้งที่21 โดยนัดรวมตัวบริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก เวลา10.30น.เพื่อยื่นหนังสือ  ถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ขอให้ยกเลิกประกาศให้สัมปทานครั้ง ที่21ในราชกิจจานุเบกษาปลดกลุ่มทุนพลังงานทั้งชุดและยกเลิกพ.ร.บ.ปิโตรเลียม2514ทั้งหมด

+++เช้านี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าไปตรวจสอบเหตุไฟไหม้ร้านภ้าภายในตลาดเบญจวรรณ โรงเกลือ จ.สระแก้ว  ร.ต.อ.เสถียร วงศ์อุดมธรรม พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจาก ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ว่า เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบว่าไฟกำลังลุกไหม้ร้านค้าหลังห้องน้ำ กองอำนวยการของตลาดโรงเกลือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านจำหน่ายและเก็บเสื้อผ้ามือสอง ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอรัญประเทศ และเทศบาลใกล้เคียง รีบเข้ามาสกัดเพลิงกว่า30คัน ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ ประมาณ23.30 น. พบว่า เสียหายประมาณ 20 คูหา มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้า และเป็นโกดังเก็บเสื้อกันหนาวมือสอง ที่แม่ค้าชาวกัมพูชาสั่งมาตุนเก็บไว้ เพื่อรอจำหน่ายในช่วงหน้าหนาวนี้ สำหรับสาเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเป็นร้านค้าของชาวกัมพูชาและเป็นช่วงเวลาที่ปิดด่านแล้ว