23 พ.ค. ศาลรธน.พิจารณาว่าจะรับ-ไม่รับคำร้องของกกต.คดี'ธนาธร'ถือหุ้นสื่อหรือไม่

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ที่ขอให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีถือหุ้นสื่อ อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)  การประชุมของศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นการพิจารณาว่าจะรับคำร้องของ กกต.ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ถ้าศาลมีมติรับคำร้องไว้พิจารณา ก็จะส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้อง และนัดพิจารณาคดีครั้งแรก หลังจากนั้น ราวต้นเดือนมิ.ย. ผู้ถูกร้องจะต้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ภายใน 15 วันนับแต่ได้รับสำเนาคำร้อง โดยภายในเดือนมิ.ย. ศาลพิจารณาคดีครั้งแรก กำหนดประเด็น ลำดับขั้นตอนการพิจารณา นัดไต่สวน และนัดฟังคำวินิจฉัย สำหรับการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบไต่สวน โดยคณะผู้พิจารณาคดี ต้องมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ต่ำกว่า 7 คนขึ้นไป

คดีนี้ กกต.มีมติเป็นมติเอกฉันท์ โดยเห็นว่า จากพยานหลักฐาน บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เป็นบริษัทที่ระบุวัตถุประสงค์ในการยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ว่าประกอบกิจการหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชน เมื่อพิจารณาจากงบการเงินของบริษัท พบว่ามีรายได้จากการขายนิตยสาร ให้บริการโฆษณา ซึ่งถือเป็นการประกอบธุรกิจสื่อสารมวลชน และยังคงประกอบกิจการอยู่ ไม่มีการจดทะเบียนยกเลิกบริษัทหรือเสร็จการชำระบัญชี สำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นหรือ บอจ. 5 ที่กกต.ได้รับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฏชื่อนายธนาธร เป็นผู้ถือหุ้นตั้งแต่ปี 2558 จนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2562 ดังนั้นเมื่อกกต. ประกาศเปิดสมัครรับเลือกตั้งส.ส.วันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ จึงเท่ากับว่าขณะที่นายธนาธร ยื่นใบสมัครลงรับเลือกตั้ง นายธนาธร ยังถือหุ้น บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัดอยู่ จึงเข้าข่ายขาดคุณสมบัติเนื่องจากเป็นบุคคลที่ห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 42(3)

แฟ้มภาพ