หลังจากซีเอ็นเอ็นและหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ของสหรัฐฯ รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯว่า นายแพทริค ชานาฮาน รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ เสนอแผนปฏิบัติการทางทหารต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยการส่งกำลังทหาร 120,000 คน ไปประจำการในภูมิภาคตะวันออกกลาง ถ้าหากอิหร่านโจมตีกองกำลังของสหรัฐฯประจำตะวันออกกลาง ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวว่าเป็นข่าวปลอม ยืนยันว่าไม่มีแผนทำแบบนั้นและหวังว่าจะไม่จำเป็นต้องมีแผนแบบนั้น แต่หากว่าจำเป็นต้องทำ จะส่งกำลังทหารไปมากกว่านั้น รายงานข่าวดังกล่าว สร้างความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังกองทัพสหรัฐฯ ส่งทั้งเรือรบ ฝูงบินทิ้งระเบิดรุ่นบี-52 และระบบต้านขีปนาวุธรุ่นแพทริออตไปประจำการยังฐานทัพสหรัฐฯในตะวันออกกลาง เพื่อรับมือกับการโจมตีจากอิหร่าน ประกอบกับก่อนหน้านี้ เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ถูกลอบก่อวินาศกรรมนอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วย
นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่เมืองโซชิ ริมทะเลดำ พูดอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน แต่ประกาศว่าจะเดินหน้ากดดันอิหร่านต่อไป ขณะที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการให้อิหร่าน ยอมตกลงในข้อตกลงควบคุมอาวุธที่ครอบคลุมฉบับหนึ่ง
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน แสดงจุดยืนเช่นกันว่าจะไม่มีสงครามกับสหรัฐฯ แม้ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศจะทวีความรุนแรงขึ้น เกี่ยวกับศักยภาพทางนิวเคลียร์และโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน
แฟ้มภาพ