พื้นที่ตะวันออกกลางเพิ่มความตึงเครียด หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่าเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำตกเป็นเป้าในการก่อวินาศกรรมนอกชายฝั่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบีย แถลงว่า เรือบรรทุกน้ำมัน 1 ใน 2 ลำถูกโจมตีในขณะที่กำลังขนส่งน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบีย จากท่าเรือราสทานูรา ไปส่งมอบให้กับลูกค้าในสหรัฐฯ การโจมตีที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ และไม่มีน้ำมันรั่วไหล แต่ทำให้โครงสร้างของตัวเรือได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีการก่อวินาศกรรมเรือขนส่งสินค้า 4 ลำ ใกล้รัฐฟูไจราห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเรือบรรทุกน้ำมันรายใหญ่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งอยู่ห่างจากช่องแคบฮอร์มุซ ไม่มากนัก ซึ่งยูเออีไม่ได้ชี้ว่าผู้ก่อเหตุคือใคร โดยเรือที่ถูกโจมตีมี 4 ลำ โดย 2 ลำเป็นเรือน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ส่วนอีก 2 ลำเป็นเรือต่างชาติ
กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน เรียกร้องให้มีการสอบสวน และเตือนว่าการสมคบคิดของผู้มีเจตนาร้ายและตัวแสดงต่างชาติ เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค
ช่องแคบฮอร์มุซ เป็นเส้นทางเดินเรือบรรทุกก๊าซและน้ำมันที่สำคัญ และแบ่งแยกประเทศในอ่าวเปอร์เซียกับอิหร่าน สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของอิหร่าน รายงานโดยอ้างความเห็นของสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งที่ว่า ประเทศที่สามอาจอยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรมที่ฟูไจราห์
กระทรวงการต่างประเทศของยูเออี แถลงความคืบหน้าของเหตุการณ์ว่า ท่าเรือฟูไจราห์ยังคงเปิดทำการตามปกติ และมีความร่วมมือกับนานาชาติในการสอบสวน ทั้งเรียกร้องมหาอำนาจร่วมกันรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียออกแถลงการณ์เพื่อสนับสนุนยูเออี ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดในภูมิภาค และเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้าของตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ ยูเออีและซาอุดิอาระเบีย เป็นพันธมิตรมุสลิมนิกายสุหนี่ สนับสนุนมาตรการของสหรัฐฯ ที่มีต่ออิหร่าน ซึ่งเป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งนอกจากนี้แล้วสหรัฐฯ ยังระบุให้ทั้ง 2 ประเทศชดเชยซัพพลายน้ำมันหากเกิดความขาดแคลน
สภาความร่วมมือแห่งอ่าวเปอร์เซีย หรือ จีซีซี ที่ประกอบด้วยสมาชิก 6 ชาติ ออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุ ว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียด ความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ และทำให้ประชาชนตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น
เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ สั่งเคลื่อนเรือบรรทุกเครื่องบินรบและอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ เข้าไปในภูมิภาคนี้เนื่องจากได้รับรายงานข่าวกรองว่าอิหร่านหรือตัวแทนอิหร่านมีแผนคุกคามสหรัฐฯ
นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีการพูดคุยกันเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรง และต้องไม่เป็นเหตุให้อิหร่านกลับไปพัฒนานิวเคลียร์อีกครั้ง
กระทรวงการคลังของจีนประกาศว่า จีนมีแผนจะขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 5,140 ประเภท มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ จากอัตราร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 25 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไปเพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯเก็บภาษีศุลกากรสินค้าของจีนเพิ่มเป็นร้อยละ 25 มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ และยังเริ่มกระบวนการขึ้นภาษีสินค้าจีนเกือบทุกชนิดอีกมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์
คำประกาศของจีนยังมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เตือนว่าจีนไม่ควรตอบโต้สหรัฐฯ เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง โดยเมื่อวันอาทิตย์เขาทวีตข้อความต่อเนื่องหลายข้อความ ยืนยันว่าการเพิ่มแรงกดดันทางการค้าต่อจีนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เนื่องจากจีนเป็นฝ่ายที่ผิดสัญญาก่อน ทั้งระบุด้วยว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือภาคเกษตรกรรม ที่น่าจะได้รับผลกระทบจากกรณีพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศมากที่สุด
นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ทั้งสหรัฐฯและจีนต่างก็ได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากร เนื่องจากผู้ประกอบการในอเมริกาต้องขึ้นราคาสินค้าที่นำเข้าจากจีน ส่วนจีนจำเป็นต้องลดการส่งออกมายังสหรัฐฯ เพราะกำแพงภาษีที่สูงขึ้น นอกจากนี้ แม้ทั้งสองฝ่ายตกลงจะพบหารือกันอีก แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน นายคุดโลว์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจีนไม่เต็มใจที่จะแก้ไขกฎหมาย และสหรัฐฯ จะเก็บภาษีในอัตราใหม่พร้อมไปกับการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อพิพาทการค้า โดยมีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนในการประชุมกลุ่มจี20 ที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาจะพบปะกับประธานาธิบดีสีผู้นำจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียในการประชุม จี20 ในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางการจีนได้แจ้งเลื่อนการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดีสี ออกไปเป็นปีหน้า เนื่องจากติดภารกิจ และจีนไม่ต้องการรับข้อเสนอที่จะให้ประธานาธิบดีสี เดินทางเยือนญี่ปุ่น 2 ครั้งภายในปีเดียวกัน แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายกำลังพัฒนาขึ้น
ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 62 เซ็นต์ ปิดที่ 61.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 39 เซ็นต์ ปิดที่ 70.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 617.38 จุด หรือร้อยละ 2.38 ปิดที่ 25,324.99 จุด
เอสแอนด์พี ลดลง 69.53 จุด หรือร้อยละ 2.41 ปิดที่ 2,811.87 จุด
แนสแดค ลดลง 269.92 จุด หรือร้อยละ 3.41 ปิดที่ 7,647.02 จุด
...