การร้องเรียนขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีถือครองหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อกว่า 13 บริษัท นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อกกต. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธร หลังพบว่ามีการถือหุ้นในบริษัทสื่อกว่า 13 บริษัท เช่น บริษัท ไทยซัมมิทโอโตโมทีฟ จำกัด, บริษัท ไทยซัมมิทพลาสเทค จำกัด เป็นต้น ซึ่งเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งที่ห้ามถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อ จึงนำมายื่นให้กกต.เร่งตรวจสอบ โดยยืนยันว่าทุกวันนี้นายธนาธร ยังคงถือหุ้นทั้ง 13 บริษัทนี้ด้วย
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ได้เดินทางเข้ามาให้ถ้อยคำต่อสำนักงานกกต. กรณีที่เคยยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบ 4 ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ว่าเข้าข่ายต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากทั้งหมดถือหุ้นในบริษัทสื่อ นอกจากนี้ยังนำหลักฐานมายื่นขอให้กกต.ตรวจสอบผู้สมัครส.ส. 13 คน ที่มาจากพรรคพลังประชารัฐ 7 คน และพรรคประชาธิปัตย์ 6 คน หลังพบว่าทั้งหมดถือครองหุ้นในบริษัทสื่อ สำหรับ 13 คนนี้ก็มีเช่น คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช และนายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์, นายสิระ เจนจาคะ และนางสาวภาดาท์ วรกานนท์ จากพรรคพลังประชารัฐ เป็นต้น
นายเรืองไกร ยังเตรียมยื่นเรื่องขอให้ศาลปกครองเพิกถอนจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของ 11 พรรคเล็ก พร้อมขอให้มีคำสั่งยกเลิกประกาศรับรองส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้ง 149 คนของกกต. และให้คำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่ เพราะมองว่าการคำนวณของกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีการลัดขั้นตอนการคำนวณด้วย
ผู้สื่อข่าว ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร