รองผบ.ตร.นำคนร้ายปล้นร้านขายของหลุดจำนำ ย่านเพชรเกษม ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

08 พฤษภาคม 2562, 13:45น.


กรณีคนร้าย 3 คน บุกปล้นร้านขายของหลุดจำนำ ย่านเพชรเกษม เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ก่อนหน้านี้ตำรวจสน.เพชรเกษม จับกุมคนร้ายได้แล้ว1 ราย คือ นายนพอนันต์ ภูษิตรุ่งโรจน์ ก่อนส่งตัวฝากขังไปแล้ว ล่าสุด เมื่อวานนี้ ตำรวจจับกุมคนร้ายได้เพิ่มอีก 1 ราย คือ นายวุฒิชัย ล้านเหรียญทอง ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านจุดเกิดเหตุ หน้าปากซอยเพชรเกษม 63 เริ่มจากนายวุฒิชัย เข้ามาในร้านและนำปืนวางที่ตู้โชว์สินค้า โดยมีกระเป๋าเป้สีดำวางทับไว้ จากนั้นเดินอ้อมเข้าไปในเคาน์เตอร์ก่อนบังคับให้พนักงานและเจ้าของร้านหมอบลง และใช้อาวุธปืนตีที่ด้านข้างศีรษะด้านขวาของเจ้าของร้าน และหยิบทรัพย์สินภายในตู้ที่2 ใส่กระเป๋าก่อนจะหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ห่างจากร้านกว่า100เมตร ไปแบ่งทรัพย์สินกันที่ซอยเพชรเกษม83 และแยกย้ายกันหลบหนี หลังนำตัวนายวุฒิชัย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว ตำรวจได้คุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ฝากขังผัดแรกทันที





พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากข้อมูลและพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทราบว่า นายนพอนันต์ เป็นคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ ได้หลบหนีไปที่บ้านญาติที่อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงสืบสวนและสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางบางส่วนและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ นายนพอนันต์ รับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายวุฒิชัย และนายต้น (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล)  ก่อเหตุดังกล่าว จนล่าสุดสามารถจับกุมนายวุฒิชัยพร้อมของกลางได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ย่านอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร



พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เบื้องต้นนายวุฒิชัยให้การรับสารภาพว่า นายนพอนันต์ ชักชวนให้มาร่วมก่อเหตุ ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาในการให้การ แต่ตำรวจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดก่อน สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการเงินไปใช้จ่าย ยังเหลือผู้ต้องหาอีก1ราย คือนายต้น ที่ยังหลบหนีอยู่บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี  คาดว่า จะได้ตัวในวันนี้ เพราะตำรวจอยู่ระหว่างลงพื้นที่ติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างใกล้ชิด จากการตรวจประวัตินายนพอนันต์และนายวุฒิชัยเบื้องต้นยังไม่พบว่าเคยก่อเหตุ



ด้านน.ส.จารณี แสงสุด พนักงานในร้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายนพอนันต์ เคยซื้อสมาร์ททีวีแต่ใช้ไม่เป็น จึงให้พนักงานในร้านสอนอยู่เป็นเวลานาน จึงทำให้จดจำเสียงและกลิ่นน้ำหอมได้  นอกจากนี้ยังเป็นลูกค้าที่เคยนำแท็บเล็ตมาขายฝากกับทางร้าน ต่อมา วันที่25 เมษายน ทำทีเข้ามาอ้างว่าใบฝากขายหาย และให้พนักงานค้นหาเอกสารให้ จนวันเกิดเหตุ นายนพอนันต์ สวมหมวกกันน็อค เข้ามา โดยมีจุดสังเกตที่ทำให้จดจำได้คือ แววตา น้ำเสียง และกลิ่นน้ำหอม ทำให้รู้ว่าคนร้ายคือนายนพอนันต์





ด้านนายศิริชัย อาศัยพาณิชย์ เจ้าของร้าน ขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน และสามารถนำทรัพย์สินของกลางกลับคืนมาได้ประมาณร้อยละ80จากของที่ถูกปล้นไป นายศิริชัย บอกว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองได้โยนกระเป๋าสตางค์ออกจากตัว เพื่อให้กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ใกล้และชัดเจนที่สุด ถึงแม้นาทีนั้นจะเสี่ยงอันตรายก็ตาม สำหรับแนวทางป้องกัน หลังจากนี้ทางร้านจะติดลูกกรงเหล็ก และก่อนจะเข้าร้านต้องถอดหมวกกันน็อค หมวกแก๊ป ออกก่อน



 



ผู้สื่อข่าว: ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X