ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ วันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2562
+++จากกรณีที่รายการ SAT. 1 FRÜHSTÜCKSFERNSEHEN ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แซทวัน (SAT 1) ของเยอรมนี ได้ล้อเลียนพระราชพิธีสำคัญของไทยด้วยเนื้อหาไม่เหมาะสม ส่งผลทำให้ชาวไทยในสื่อสังคมออนไลน์เข้าไปแสดงความคิดเห็น ไม่พอใจพฤติกรรมของรายการนี้จำนวนมาก มองว่ามีเจตนาดูหมิ่นขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยและเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย (สอท.) ประจำกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ได้รับข้อความจากชาวไทย และยืนยันว่าเรื่องนี้ทางสถานทูต ไม่นิ่งนอนใจ ล่าสุด รายการดังกล่าว ออกมายืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจดูถูกวัฒนธรรมไทยไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง แต่หากเห็นว่าไม่เหมาะสม เราจึงขออภัยอย่างเป็นทางการมา ณ ที่นี้" อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแอดมินเพจของรายการดังกล่าวได้ปิดเฟซบุ๊กชั่วคราว หลังชาวไทยยังคงแสดงความคิดเห็นไม่พอใจ ด้านสถานทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ส่งหนังสือชี้แจงไปยังรายการนี้เช่นเดียว
+++พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยการเตรียมรับมือแก้ปัญหาจราจรติดขัดช่วงเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พ.ค.นี้ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับกองบังคับการตำรวจจราจร และสถานีตำรวจทุกพื้นที่ ปฏิบัติตามนโยบาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระดมกำลังแก้ปัญหาจราจรหน้าโรงเรียนและสถานศึกษาวันเปิดภาคเรียน โดยเฉพาะตามแยกสำคัญ ที่มีปัญหาการจราจร ซึ่งตำรวจ ผู้ปกครอง โรงเรียน และสถานศึกษา ต้องร่วมมือกันในการบริหารจัดการ จุดรับ-ส่ง นักเรียน นักศึกษา อย่างเป็นระบบ รวมถึงการปล่อยสัญญาณไฟจราจรให้สัมพันธ์กัน ประสานความร่วมมือเร่งรัดการคืนพื้นผิวจราจรตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ เร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มในจุดที่เป็นปัญหา เสริมการทำงานของตำรวจ สั่งห้ามไม่ให้มีการเรียกรับประโยชน์โดยมิชอบ เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการทางวินัยและอาญา
+++บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่าในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2562 ผู้ปกครองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล น่าจะมีการใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับบุตรหลานประมาณ 28,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเปิดเทอมใหญ่ปีที่แล้ว ผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ผู้ปกครองกว่า ร้อยละ 54.2 มีความกังวลต่อสภาพคล่องทางการเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในด้านการศึกษา แต่ยังมีแนวทางรองรับ เนื่องจากการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ และเปิดเทอมใหญ่ปีนี้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนละ 500 บาทต่อบุตร 1 คน ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาภาระรายจ่ายสำหรับผู้ปกครองที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา เช่น ค่าใช้จ่ายชุดนักเรียนและกีฬา รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2562 ของภาครัฐ
+++นายกรัฐมนตรีขอคนไทยติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ระบุต้องระมัดระวังที่สุด เพราะทุกประเทศประสบปัญหา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกวันนี้ จะต้องมีความระมัดระวังมากที่สุด จึงอยากให้คนไทยทุกคนช่วยกันติดตาม เพราะมีปัญหาทุกประเทศ ทุกภูมิภาค และการเจริญเติบโตของจีดีพีของทุกประเทศลดลงจากที่ประมาณการณ์ไว้ทั้งหมด เกือบทุกประเทศได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนต่าง ๆ ซึ่งหลายประเทศมีปัญหา แต่ประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถพยุงได้อยู่ สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นธรรมดาที่มีขึ้นมีลง มีช่วงไฮซีซั่นและโลว์ซีซั่น ซึ่งเราได้หามาตรการเสริม เช่น การท่องเที่ยวในชุมชน หรือการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ โดยวันนี้ การท่องเที่ยวและการบริการยังเดินหน้าไปได้
+++ผลจากการร้องเรียน การเลือกตั้งเขต 1 จ.นครปฐม นายสามารถ นาคสกุล ผอ.กกต. จ.นครปฐม ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ผอ.กกต.จ.นครปฐม คาดว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสุขภาพ และความเครียดจากการทำงาน เนื่องจากพื้นที่ นครปฐม มีปัญหาการรวมคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ระหว่าง น.ส. สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัคร จากพรรคอนาคตใหม่ และ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้จากผลการนับคะแนนใหม่เมื่อวันที่ 28 พ.ค. พ.ท.สินธพ ชนะ น.ส.สาวิกา เพียง 4 คะแนน ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัย ของคนในพรรคอนาคตใหม่ และประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ จนนำไปสู่การพยายามดำเนินการให้ กกต. จัดการเลือกตั้ง ในพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง
+++กรณี น้องพลอย-ยลฤดี ปิยะทัต เด็กไร้สัญชาติ อายุ 17 ปี จาก โรงเรียนสตรีระนอง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Ploy Yonladee Phiyatat” ว่าถูกตัดสิทธิไปแข่งโครงการวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากตนเองเป็นคนไม่มีสัญชาติ ทำให้ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ โดยเธอประสบปัญหาในเรื่องกระบวนการขอหนังสือเดินทางออกนอกประเทศสำหรับคนต่างด้าว (Travel Document - T.D) หรือเรียกสั้นๆ ว่า T.D มีความล่าช้า เพื่อขออนุญาตออกนอกราชอาณาจักรไทย ตามคำเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ สำหรับโรงเรียนโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ในผลงานที่ชื่อว่า "เครื่องคัดแยกขวดอัตโนมัติ" ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ตนจะไม่ได้ถือสัญชาติไทยเพราะพ่อเป็นคนไทยพลัดถิ่นและแม่เป็นชาวเมียนมา ที่เข้ามาทำงานในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังคิดเสมอว่าตนเองเป็นคนไทยที่ต้องการจะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
+++ด้าน ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้มีการชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวทราบว่านักเรียนจะไปแข่งในนามของเอกชน ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่มีอำนาจในเรื่องของการอนุมัติสัญชาติหรือการขอวีซ่าได้ ขณะเดียวกัน ก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องโอกาสของเด็กและโอกาสของประเทศที่จะได้ส่งนักเรียนไปแข่งขันในเวทีโลก ดังนั้นจึงมอบหมายให้สำนักวิชาการและมาตรฐาน สพฐ.และศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน (ฉก.ชน.) รับหน้าที่ในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประสานกับนักเรียน พยายามจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสไปร่วมแข่งขัน แต่ที่สุดก็ขึ้นกับกฎหมายและหน่วยงานที่ดูแลด้วย
+++ชาวบ้านหมู่ 3 ต.หัวดง อ.ลับแล รวมตัวตั้งขบวนแห่นาง ซึ่งมีทั้งคนชื่อแมว และชาวบ้านต่างแต่งตัว แต่งหน้าให้เป็นแมว ทั้งแมวตัวผู้ แมวตัวเมีย มาร่วมขบวนแห่ แทนแมวจริง และมีเด็กหญิงฝาแฝด แต่งเป็นลูกแมวเหมียวนั่งในตะกร้าท้ายรถจักรยานยนต์ ที่ชาวสวนลับแลใช้ขนทุเรียน ลองกอง ลงจากเขาเป็นประจำ ขบวนแห่มาถึงชาวบ้านก็จะนำน้ำมาสาดหรือรดทั้งคนทั้งแมวที่อยู่ในกรงเพื่อความสดชื่น เป็นเคล็ดความเชื่อให้ฝนตกลงมาตามความเชื่อว่าการแห่นางแมวจะทำให้เกิดฝนตกลงมา โดยแมวต่างร้องส่งเสียงดังระงมชาวบ้านอาศัย 2 ฝั่งถนนที่ขบวนผ่าน นำน้ำมาสาดให้กับขบวนแห่เพื่อแสดงว่าได้มีฝนตกลงมาแล้ว นายเสริม ธนาละออง ประธานชุมชนหมู่ 3 ต.หัวดง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ชาวลับแลกำลังประสบภัยแล้งรุนแรง ทุเรียน ลองกอง ที่ปลูกและกำลังให้ผลผลิตเริ่มยืนต้นตายไม่มีน้ำบำรุงต้น จึงแห่นางแมว โดยชาวบ้านแต่งตัวเป็นแมว นำคนชื่อแมวมาร่วมขบวนในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากทุกคนกลับจากการทำงานมารวมตัวกันแห่ 3 คืนด้วยความเชื่อ หากฝนตกจะทำการแก้บนด้วยหัวหมู
+++ผลการประชุม คณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่มี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ที่ประชุมได้พิจารณา เงินกองทุน สนับสนุนทุนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Grant) ประจำปี 2561 ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณ ให้กับ โครงการ/กิจกรรม “เอรียา จุฑานุกาล” ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 16.5 ล้านบาท จากที่ขอเข้ามาทั้งหมด 20 ล้านบาท ซึ่งยื่นคำขอในนามบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในวงการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นโครงการถูกตั้งข้อสังเกต จากสื่อสังคมออนไลน์ ว่าเป็นโครงการอะไร โดยแอดมินเพจ มาตอบคำถามว่า โครงการ "เอรียา จุฑานุกาล" เป็นโครงการผลิตภาพยนตร์ ที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ เป็นต้นแบบที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนด้านอาชีพที่เริ่มจากศูนย์ ฝ่าฟันชีวิต จนประสบความสำเร็จ โดยมีครอบครัวเป็นส่วนร่วมสำคัญ เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ตอบยุทธศาสตร์ “ด้านการผลิตสื่อเพื่อการปฏิรูปการศึกษาในการพัฒนา เด็กและเยาวชน” ส่วนทีมงานผู้ผลิตเป็นทีมงานที่คณะกรรมการฯ ประเมินแล้วเห็นว่ามีศักยภาพในการผลิตภาพยนตร์ เรื่องนี้ให้เป็นสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ได้