ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. 6 พฤษภาคม 2562

ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนเมษายน 2562 ปรับลดลงจากเดือนก่อนมาสู่ระดับ 49.2 เนื่องจากมีคำสั่งซื้อลดลง โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าในประเทศ นำโดยกลุ่มผลิตยานยนต์ กลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มผลิตปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ ยางและพลาสติก นอกจากนี้ ดัชนีฯ ของภาคที่มิใช่การผลิตปรับก็ลดลงแต่ยังอยู่เหนือระดับ 50 เนื่องจากกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารที่มีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้มีความเชื่อมั่นด้านการจ้างงานลดลงด้วย แต่แนวโน้มในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 56.8 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่มองว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้น

นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ คาดว่าจะมีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปี เนื่องจากยังรอดูทิศทางการเมือง โดยในวันที่ 9 พฤษภาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว และจะมีการประชุมสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเดือนพฤษภาคมนี้ นอกจากนี้ กนง.จะรอตัวเลขเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.ในวันที่ 21 พฤษภาคม จึงคาดว่า กนง.ยังคงไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมทั้ง 2 ครั้งคือในวันที่ 8 พฤษภาคมและวันที่ 26 มิถุนายนนี้ แต่ในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าจะปรับขึ้น 1 ครั้งในอัตราร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 2 ต่อปี

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าการประชุม กนง.วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ กนง.จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยยังต้องติดตามประเด็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน และการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งต้องรอดูมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งพัฒนาการของเศรษฐกิจต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นข้อพิพาททางการค้าอย่างใกล้ชิด หลังจากเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง แต่ขณะเดียวกันปัจจัยเสี่ยงก็เพิ่มขึ้น

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ มีความเห็นว่า รัฐบาลยังไม่ควรออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจกลางปี 2562 แต่เห็นด้วยกับการเติมเงินไปช่วยผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการ 14 ล้าน 6 แสนคน โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการประเมินสถานการณ์การส่งออกปี 2562 ซึ่งกำหนดจะประชุมหารือภาครัฐและเอกชนปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะต้องรวบรวมสถานการณ์และสถิติการนำเข้าและส่งออก ดูถึงความต้องการและโอกาสการนำเข้าสินค้าในแต่ละประเทศ แล้วนำมาประมวลกับภาคเอกชนรายอุตสาหกรรรมที่อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลทิศทางการส่งออกเช่นกัน ก่อนจะระบุได้ว่าจะมีการทบทวนตัวเลขการส่งออกที่ปีนี้กำหนดไว้โตร้อยละ 8 หรือไม่

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า รัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง ยังอยู่ในแผนฟื้นฟูของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ กสท ซึ่งจะต้องดูแลจนกว่าจะกลับมามีกำไร จึงจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้ โดยก่อนหน้านี้มีเพียงรัฐวิสาหกิจภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง คือธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ที่สามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้

...