ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 6 พฤษภาคม 2562

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งสหราชอาณาจักร เขียนบทความเผยแพร่ผ่านทางหนังสือพิมพ์ เดอะ เมล์ ออน ซันเดย์ เตือนนายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงานและแกนนำฝ่ายค้าน ว่าผลการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่พรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงาน ต้องสูญเสียที่นั่งไปมากกว่า 1,000 ที่นั่งแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่พรรคการเมืองทั้ง 2 พรรคจะต้องร่วมมือกันเดินหน้ากระบวนการทำงานเพื่อให้สหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป หรืออียู หรือที่เรียกว่าเบร็กซิต ตามที่ประชาชนออกเสียงประชามติ นายกรัฐมนตรีเมย์ ระบุว่า ยิ่งการทำงานล่าช้า ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่สหราชอาณาจักรจะไม่ได้ออกจากอียูมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่เพิ่งผ่านไปนั้น ปรากฏว่าพรรคที่ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น คือพรรคเสรีประชาธิปไตยที่มีการรณรงค์ให้เลิกล้มเบร็กซิต เพื่อให้สหราชอาณาจักรอยู่ในกลุ่มอียูต่อไป

สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และปาเลสไตน์ ซึ่งเริ่มขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮามาสยิงระเบิดถึง 250 ลูก ข้ามฝั่งเข้าไปในฝั่งอิสราเอล จากนั้นอิสราเอลส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด และรถถังโจมตีเป้าหมายในกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

โดยเมื่อเดือนเมษายนอิสราเอลกับปาเลสไตน์บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว แต่ต่อมาฝ่ายปาเลสไตน์ปฏิเสธข้อตกลงเนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรับรองให้นครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล จากนั้นก็รับรองให้ที่ราบสูงโกลันที่เป็นดินแดนของตุรกีตกเป็นของอิสราเอล

ที่ฝรั่งเศส การชุมนุมของกลุ่มเสื้อกั๊กสีเหลืองในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อต่อต้านรัฐบาลฝรั่งเศสซึ่งดำเนินมาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 25 ปรากฏว่า มีผู้ออกมาร่วมชุมนุมน้อยที่สุด ส่วนหนึ่งเกิดจากเหตุปะทะรุนแรงเนื่องในวันแรงงานเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม

กระทรวงกิจการภายในฝรั่งเศส รายงานว่าการชุมนุมครั้งล่าสุดนี้มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมราว 18,900 คนทั่วประเทศ จากที่เมื่อสัปดาห์ก่อนมีจำนวน 23,600 คน เฉพาะที่กรุงปารีสมีการชุมนุมแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มจำนวนรวมกันประมาณ 1,460 คน  นอกจากนี้ ยังมีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อกั๊กสีเหลือง ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศโลก ที่เมืองเมตซ์ ตอนเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งกำลังมีการประชุมของกลุ่มรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศจี 7 ด้วย

กระทรวงกลาโหมเวเนซุเอลาออกแถลงการณ์ว่า เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพประสบเหตุตกใกล้กับกรุงการากัส ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 7 คน เสียชีวิตทั้งหมด เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ออกเดินทางมาจากกรุงการากัสมุ่งหน้ารัฐโกเฮเดส ซึ่งประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา อยู่ที่ในระหว่างการเดินทางเยือนเพื่อติดตามการฝึกซ้อมของกองทัพ

ส่วนที่รัสเซีย มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ เซเรเมเตียโว ในกรุงมอสโก ขณะที่ เครื่องบินของสายการบิน แอโรฟลอต ของรัสเซีย ลงจอดฉุกเฉินแล้วกระแทกพื้นจนเกิดไฟลุกท่วม กับยังมีคลิปภาพเหตุการณ์ที่ถ่ายจากภายในเครื่องบินขณะที่เกิดเหตุด้วย โดยเครื่องบินที่เกิดเหตุคือเที่ยวบินที่ เอสยู1492 มีผู้โดยสารและพนักงานอยู่ในเครื่องบิน 78 คน เดินทางมาจากสนามบินเชเรเมเตียโวมุ่งหน้าเมืองเมอร์มานสค์ แต่หลังจากขึ้นบินได้ราว 27 นาที นักบินแจ้งขอลงจอดฉุกเฉิน คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียเปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 34 คน บาดเจ็บ 7 คน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของอินเดีย รายงานว่าพายุไซโคลนฟานิขึ้นฝั่งบริเวณเมืองปูริ รัฐโอริสสา เมื่อวันศุกร์ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 4 ตามมาตรวัดพายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน ซึ่งแม้ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง แต่พบผู้เสียชีวิต 29 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 160 คน

จากนั้นพายุเคลื่อนตัวเข้าสู่บังคลาเทศและอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น ทำให้มีฝนตกหนัก น้ำท่วมสูงพบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 รายบาดเจ็บอีก 63 คน

อินโดนีเซียเริ่มการจมเรือต่างชาติ 51 ลำที่ยึดไว้เพื่อยับยั้งการทำประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำของพวกเขา โดยเรือเหล่านี้มาจากเวียดนามจำนวนมากที่สุดคือ 38 ลำรองลงมาคือจากมาเลเซีย 6 ลำ จีน 2 ลำ และฟิลิปปินส์ 1 ลำ ส่วนที่เหลือคือเรือต่างชาติที่ติดธงอินโดนีเซีย กระทรวงการเดินเรือและการประมงอินโดนีเซีย กล่าวว่า เรือประมงที่ทำผิดกฎหมายเป็นภัยคุกคามต่อกิจการประมงท้องถิ่น ทั้งยังเกี่ยวข้องกับปัญหาแรงงานทาสในยุคใหม่ด้วย

ส่วนสถานการณ์ไวรัสอีโบลาแพร่ระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,000 คน ซึ่งอาสาสมัครในพื้นที่ยอมรับว่า ความรุนแรงของโรคและปัญหาความมั่นคงในภูมิภาคทำให้สถานการณ์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากการระบาดครั้งนี้มีความรุนแรงมากเป็นอันดับ 2 รองจากเมื่อช่วงปี 2557-2559 ซึ่งพบผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตกมากกว่า 11,300 คน

…