ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 2 พฤษภาคม 2562

ชาวญี่ปุ่น เฉลิมฉลองการเริ่มต้นรัชสมัยเรวะ อย่างมีความสุข ที่ห้างสรรพสินค้าในย่านกินซ่า มีประชาชนจำนวนมากไปต่อแถวรอรับเหล้าสาเกแจกฟรี ที่รินใส่ถ้วยไม้ทรงสี่เหลี่ยม มีข้อความเขียนคำว่า เรวะ ขณะที่เด็กๆ ได้รับแจกขนมปังไส้ถั่วแดง มีตัวอักษรคำว่า เรวะ เช่นกัน ศิลปินชื่อดังได้วาดตัวอักษรจีนขนาดใหญ่เป็นข้อความถวายพระพรสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะส่วนตามท้องถนนมีคนนำหนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษที่ตีพิมพ์เนื่องในโอกาสเสด็จขึ้นครองราชย์ ของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่มาแจกให้ประชาชน

กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสารแสดงความยินดีถึงนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสการเปลี่ยนรัชสมัยและการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและญี่ปุ่นจะครบรอบ 132 ปี ในปีนี้ ขอถือโอกาสที่จะแสดงความชื่นชมต่อความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างกัน และขออวยพรให้ญี่ปุ่นมีสันติภาพ ความสามัคคีปรองดอง และความเจริญรุ่งเรืองภายใต้รัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ ขอส่งมอบความปรารถนาดีมายังประชาชนชาวญี่ปุ่นในการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นแห่งรัชสมัยเรวะ

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ สั่งปลดนายกาวิน วิลเลียมสัน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม แม้จะกล่าวปฏิเสธเรื่องการเปิดเผยความลับรั่วไหลจากการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีหัวเว่ยของจีน แต่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเมย์ หลังจากสั่นคลอนเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรืออียู นายกรัฐมนตรีเมย์ ได้มีหนังสือถึงนายวิลเลียมสัน ระบุว่า จากการสอบสวนเรื่องการรั่วไหลของที่ประชุมมีหลักฐานที่ชี้ได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของนายวิลเลียมสันที่เปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่า อังกฤษจะอนุญาตให้หัวเว่ยเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างส่วนหนึ่งของเครือข่าย 5G ซึ่งจะทำให้อังกฤษขัดแย้งกับสหรัฐฯได้ในเรื่องเทคโนโลยีสื่อสาร

ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา แถลงปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่าเขาเตรียมลี้ภัยไปยังคิวบาและเครื่องบินโดยสารประจำตำแหน่งจอดรออยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติการากัสแล้ว เพราะเขาจะคงอยู่ในเวเนซุเอลาเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับความพยายามล้มล้างอำนาจที่เป็นความพยายามก่อการรัฐประหารโดยนายฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้านซึ่งประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีคู่ขนาน ท้าทายอำนาจทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียและจีน ออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐฯต้องการจุดไฟแห่งสงครามกลางเมืองในเวเนซุเอลา โดยใช้นายกวยโดเป็นตัวตายตัวแทน ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านวัย 35 ปี ยังคงประกาศอย่างต่อเนื่อง ปลุกระดมให้ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงกันให้มากที่สุดและจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะนำไปสู่การล่มสลายของระบอบนายมาดูโร

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กำลังจับตาอย่างใกล้ชิดต่อสถานการณ์ในเวเนซุเอลา และยืนยันว่าสหรัฐฯอยู่เคียงข้างชาวเวเนซุเอลาทุกคนเพื่อเสรีภาพและเตือนว่าเขาจะใช้มาตรการคว่ำบาตรขั้นสูงสุดต่อคิวบา หากช่วยเหลือนายมาดูโร และหวังว่ากองทัพคิวบาจะไม่เคลื่อนไหวในตอนนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีมิเกล ดิแอซ-กาเนล ผู้นำคิวบา ตำหนิสหรัฐฯที่กล่าวหาว่ารัฐบาลคิวนามีทหารอยู่ในเวเนซุเอลาโดยไม่มีหลักฐานและประกาศพร้อมต่อสู้กับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ  

ศาลฎีกาของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย มีคำตัดสินว่านายคาเลด คายัต อายุ 51 ปี มีความผิดในข้อหาเตรียมระเบิดเครื่องบินของเอทิฮัด แอร์เวย์ สายการบินเเห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี โดยนายคายัต ถูกกล่าวหาว่าซุกซ่อนระเบิดในเครื่องบดเนื้อชิ้นหนึ่งก่อนนำขึ้นเครื่องบิน แต่นายคายัต ให้การปฏิเสธ วันเกิดเหตุคือ 15 กรกฎาคม 2560 เครื่องบินดังกล่าวจะเดินทางจากเมืองซิดนีย์มุ่งหน้ายังกรุงอาบูดาบี ยูเออี พร้อมผู้โดยสาร 400 คน ตำรวจสามารถสกัดแผนก่อเหตุร้ายหลังพบกระเป๋าบรรจุระเบิดของนายคายัตมีน้ำหนักเกินกว่าจะตรวจตามปกติที่จุดตรวจของสนามบินเมืองซิดนีย์ จึงเปิดออกตรวจและพบระเบิด ตำรวจเชื่อว่าระเบิดดังกล่าวถูกส่งมาให้กับนายคายัตในออสเตรเลียโดยสมาชิกกลุ่มไอเอสในตุรกี คดีนี้ศาลนัดอ่านบทลงโทษวันที่ 26 กรกฎาคม และมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

รัฐบาลอินเดีย สั่งอพยพผู้คนนับแสนคนที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือให้อพยพออกนอกพื้นที่ก่อนเพื่อความปลอดภัย เนื่องจาก อิทธิพลของพายุไซโคลน ฟานิ เตรียมพัดขึ้นฝั่งประเทศอินเดียในวันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม ศูนย์เฝ้าติดตามความเสี่ยงจากพายุไซโคลนแจ้งว่า พายุไซโคลนฟานิอยู่ในระดับ 3 ของการจัดลำดับความรุนแรงของพายุต่ำสุดคือ 1 ไปจนถึงสูงสุดระดับ 5 ที่รัฐโอริสสา มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยบริหารจัดการพิบัติภัยหลายพันคนในการช่วยเหลือประชาชนในการอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนที่ไม่แข็งแรงเพราะปลูกด้วยดินโคลนและอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มให้อพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ส่วนนักท่องเที่ยวก็ได้รับคำเตือนให้เดินทางออกจากเมืองปุรีเมืองศักดิ์สิทธิ์ริมชายฝั่งของชาวฮินดู ฤดูมรสุมของอินเดียที่จะได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงเดือนธันวาคมของทุกปี จึงต้องสั่งอพยพผู้คน แต่ก็ยังมีความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ทั้งพืชผลการเกษตรและทรัพย์สิน รวมไปถึงผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งในประเทศอินเดียและบังกลาเทศ

วารสารกุมารเวชศาสตร์ของสหรัฐฯ โดยหัวหน้าทีมวิจัยคือนายเฮนรี สปิลเลอร์ ผู้อำนวยการศูนย์พิษวิทยาเซ็นทรัล โอไฮโอ ประจำโรงพยาบาลเด็กเนชั่นไวด์ ชิลดรินส์ ฮอสปิตอลในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ชี้ว่า อัตราการพยายามฆ่าตัวตายในกลุ่มเด็กและหนุ่มสาวในสหรัฐฯเพิ่มกว่าสองเท่าในรอบ 10 ปี ด้วยการใช้มูลจากบันทึกแจ้งเหตุทางโทรศัพท์มายังศูนย์พิษวิทยาว่ามีการพยายามฆ่าตัวตาย ระหว่างปี 2543-2561 ทีมวิจัยพบว่า มีการจงใจดื่มยาพิษเพื่อฆ่าตัวตายราว 1.6 ล้านราย ดร.เคน กินสเบิร์ก อาจารย์สาขาวิชากุมารแพทย์จากโรงพยาบาลชิลดรินส์ ฮอสปิตอล ประจำเมืองฟิลาเดลเฟีย ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์การสื่อสารระหว่างพ่อแม่กับวัยรุ่น ตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดใจพูดคุยปัญหาต่างๆระหว่างสมาชิกในครอบครัวคือวิธีการป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด

ตำรวจอินเดีย รายงานว่า เกิดเหตุวัยรุ่นสามคนเสียชีวิตระหว่างถ่ายรูปเซลฟีกันบนรางรถไฟในอินเดีย ตำรวจเล่าว่าวัยรุ่นคนที่สี่กระโดดหนีออกจากรางได้ทันก่อนที่รถไฟจะพุ่งเข้ามาชนในรัฐหรยาณา ส่วนวัยรุ่นที่เคราะห์ร้ายสามคน กำลังเซลฟีเห็นรถไฟมาจึงกระโดดไปอีกรางหนึ่ง โดยไม่ทันสังเกตว่ามีรถไฟอีกขบวนแล่นบนรางแล้ว กลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-19 ปีเดินทางมาที่เมืองปานิปัตเพื่อมาร่วมพิธีแต่งงาน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้ใจจดจ่ออยู่กับโลกออนไลน์ โดยมีข่าวในอินเดียหลายครั้งที่ผู้คนมักโพสต์และเซลฟีแบบเสี่ยงตาย สถาบันการแพทย์ในอินเดีย รายงานผลการศึกษาเมื่อปีที่แล้ว พบว่า โลกมีผู้เสียชีวิต 259 คน ระหว่างถ่ายรูปเซลฟี ช่วงปี 2554-2560  ผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่สุดมีรายงานในอินเดีย รองลงมาคือ รัสเซีย สหรัฐฯ และปากีสถาน

CR:BBC