โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่น กกต. สอบครม.อนุมัติงบให้อสม.ก่อนเลือก 2 วัน เข้าข่ายจูงใจ-เลือกพปชร.

การร้องเรียนเพื่อให้มีการยุบพรรคพลังประชารัฐ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษก ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบคณะรัฐมนตรี หลังอนุมัติเพิ่มค่าตอบแทนแก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จาก เดิม 600 บาทต่อเดือนเป็น 1,000 บาทต่อเดือน จำนวน 4,000 ล้านบาท ให้ อสม.กว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ โดยขณะนั้น  4 รัฐมนตรีที่เป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง และมีการโอนเงินเหล่านี้เข้าบัญชีของ อสม. ก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน เข้าข่ายจูงใจและอำนวยความสะดวกให้พรรคการเมืองที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 73(1) ในรัฐธรรมนูญ และมาตรา 78   พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวส่งผลให้การเลือกตั้งในเขตที่มีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ และหาก กกต. วินิจฉัยแล้วมีความผิดจริง ขอให้ กกต. มีมติสั่งระงับสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐในทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศต่อไป และเขตเลือกตั้งใดที่ผู้สมัครจากพรรค พปชร. เข้าข่ายจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ก็ขอให้ยกเลิกการเลือกตั้งนั้น และมีการเลือกตั้งใหม่ 

นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า จากหลักฐานพบว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้ อสม. จาก 600 บาท เป็น 1,000 บาท ขณะที่ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพิ่มเงินดังกล่าวโดยใช้งบกลาง ซึ่งเป็นงบที่จะใช้กรณีอุบัติภัยและความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น ดังนั้น การอนุมัติงบ อสม. จึงผิดหลักเกณฑ์ของการใช้งบกลาง และ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง มาตรา 78 ได้ระบุว่า ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษกับผู้สมัครหรือพรรคการเมือง และมีโทษจำคุก 1-20 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,0000 บาท และศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุด 20 ปี ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้  จึงขอให้ กกต. ไต่สวนและวินิจฉัยตามที่พรรคเพื่อไทยร้อง กกต.