ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 30 เมษายน 2562

30 เมษายน 2562, 05:47น.


ในวันนี้ นายโรเบิร์ต ไลธีเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะเริ่มเจรจาการค้ากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีน เกี่ยวกับปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา การโอนเทคโนโลยีโดยบีบบังคับ อุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี การเกษตร การบริการ การซื้อสินค้า และการบังคับใช้ข้อตกลง  ขณะที่คณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯเตือนว่า พร้อมที่ออกจากการเจรจาหากสหรัฐฯ ไม่มีความพอใจการเจรจา โดยเฉพาะในประเด็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการเปิดตลาดให้แก่บริษัทต่างชาติ



นายมนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การเจรจากำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างมีมีความต้องการที่จะบรรลุข้อตกลง



สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการส่งออก โดย 9 ใน 10 ตัวชี้วัดที่บลูมเบิร์กติดตาม ประเมินว่า ภาวะการค้าทั่วโลกอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่ากลางเฉลี่ย แม้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาสหนึ่งอยู่ในระดับที่ดีกว่าที่คาดไว้



และในระหว่างวันที่ 30 เมษายน-1 พฤษภาคมนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดจะมีการประชุม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานเฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ย หลังจากนั้นจะทยอยลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ นายบรูซ คาสแมน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกน เชส แอนด์โค กล่าวว่า เฟดคงอัตราดอกเบี้ยมาเป็นเวลานาน แต่เวลานี้มีความเสี่ยงเงินเฟ้อลดลง ซึ่งอาจทำให้เฟดเริ่มคิดถึงการผ่อนคลายนโยบาย



นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ แสดงความหวังว่าสหรัฐฯและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในที่สุด ทั้งมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างที่มีนักวิเคราะห์จากหลายสถาบันคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่จากตัวเลขของ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการขยายตัวร้อยละ 3.2 ในไตรมาสแรก จะทำให้ต้องมีการประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกครั้ง



ศาลแขวงรัฐบาลกลางสหรัฐฯในนครลอสแอนเจลิสออกหมายจับระหว่างประเทศ นายเอเดรียน ฮง ชาง ซึ่งถือสัญชาติเม็กซิโกแต่มีถิ่นพำนักอยู่ในอเมริกา และเป็นหนึ่งในแกนนำของกลุ่มป้องกันพลเรือนชอลลิมา หรือ กลุ่มปลดปล่อยโชซอน ในความผิดฐานนำกลุ่มบุคคลบุกรุกสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงมาดริดของสเปน เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ เพื่อโจรกรรมอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตด้วย ต่อเนื่องจากที่เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน มีการจับกุมอดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ เชื้อสายเกาหลี ฐานต้องสงสัยร่วมขบวนการเดียวกัน



กองเรือที่ 7 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ส่งเรือรบ 2 ลำ เดินเรือผ่านช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มความถี่ในการเดินเรือผ่านน่านน้ำที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ แม้ว่าจะทำให้จีนไม่พอใจ และส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีความตึงเครียดมากขึ้น  กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า การเดินเรือของสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก แต่จีนยังไม่มีความเห็นเกี่ยวกับการเดินเรือครั้งล่าสุดนี้



หน่วยงานความมั่นของศรีลังกาส่งหนังสือแจ้งเตือนไปถึงสภานิติบัญญัติและหน่วยงานด้านความมั่นคงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงอาจจะก่อเหตุโจมตีขึ้นอีกเหมือนก่อเหตุในเทศกาลอีสเตอร์ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 ราย โดยพื้นที่เฝ้าระวังคือเมืองบัตติคาโลอาที่เคยเกิดเหตุรุนแรง และมีการประกาศยกเลิกการออกนอกอาคารที่พักในเวลากลางคืนไปเมื่อวันที่ 28 เมษายน โดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยังคงสุ่มตรวจ และค้นหาผู้ต้องสงสัยที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อไป



ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา แห่งศรีลังกา ออกคำสั่งภายใต้กฎหมายภาวะฉุกเฉิน ห้ามประชาชนสวมใส่หรือใช้สิ่งปกคลุมใบหน้า ซึ่งครอบคลุมถึงการห้ามสตรีมุสลิมปกปิดใบหน้าในลักษณะของนิกอบและบูร์กาด้วย



ส่วนที่กรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนแห่งชาติ หรือเอ็นไอเอบุกตรวจค้นบ้านของผู้ต้องสงสัย 3 รายในรัฐเกระละ เนื่องจากต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องสงสัย 15 คน ที่เดินทางไปเข้าร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ที่อ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่ศรีลังกา



ราคาน้ำมันในตลาดโลกทรงตัวเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนว่าโอเปกจะมีนโยบายอย่างไรต่อไป หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบียและสมาชิกกลุ่มเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน



สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 63.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 11 เซนต์ ปิดที่ 72.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 11.06 จุด หรือร้อยละ 0.04 ปิดที่ 26,554.39 จุด



เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.15 จุด หรือร้อยละ 0.11 ปิดที่ 2,943.03 จุด



แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.45 จุด หรือร้อยละ 0.19 ปิดที่ 8,161.85 จุด



ข่าวทั้งหมด

X