พยาบาลอเมริกันวิจารณ์มาตรการป้องกันอีโบล่าที่สนามบินเข้มงวดมากเกินไป

นางเคซี ฮิคค๊อซ พยาบาลชาวอเมริกันที่เพิ่งเดินทางกลับจากการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบล่าในเซียร์ร่า ลีโอน ในโครงการแพทย์ไร้พรมแดน แสดงความไม่พอใจที่ถูกกักกันตัวที่สนามบินนานาชาตินวร์ก ลิเบอร์ตี้ รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐฯ ตามมาตรการคุมเข้มผู้ที่มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้ออีโบล่าที่ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีเพิ่งประกาศใช้วานนี้ พร้อมแสดงความเห็นว่ามาตรการนี้ อาจเป็นอุปสรรคที่ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกันคนอื่นไม่กล้าเดินทางเข้าไปช่วยเหลือผู้ติดเชื้ออีโบล่าในแอฟริกาตะวันตก ทั้งนี้ นางฮิคค๊อซ เขียนบทความเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ดัลลาส มอร์นิ่ง นิวส์ บอกเล่าถึงสิ่งที่เธอต้องพบเจอ เมื่อเดินทางกลับถึงสนามบินบ้านเกิด โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อเธอเหมือนเธอเป็นอาชญากรหรือนักโทษที่กระทำความผิดร้ายแรง พร้อมควบคุมเธอไว้ในพื้นที่เฉพาะภายในสนามบินเป็นเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง และมีเพียงซีเรียลให้เธอได้รับประทานเท่านั้น ทั้งที่เธอไม่มีไข้ มีเพียงอาการหน้าแดง เพราะผิดหวังต่อมาตรการของทางการ ซึ่งแม้ว่าผลการตรวจจะยืนยันออกมาแล้วว่าเธอไม่ติดเชื้อไวรัสอีโบล่า แต่ตามมาตรการใหม่ ทำให้เธอต้องอยู่ภายใต้มาตรการกักกันตัวอีก 3 สัปดาห์ และต่อด้วยการติดตามอาการของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอีก

นอกจากนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีแล้ว ล่าสุด รัฐอิลลินอยส์ได้ประกาศเพิ่มมาตรการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบล่าเช่นกัน

ด้านรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แสดงความวิตกต่อการเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของอีโบล่ามลรัฐทั้ง 3 ว่า อาจส่งผลต่อบุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อในแอฟริกาตะวันตก ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นางซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ และคณะ มีกำหนดการเยือนกินี ไลบีเรีย และเซียร์ร่า ลีโอน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบล่ามากที่สุดในวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากพื้นที่จริง และนำไปสู่การหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือต่อไป

**10.39F174**