ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 26 เมษายน 2562

ทางการศรีลังกา ออกประกาศปิดถนนโดยรอบธนาคารกลาง และสนามบินในเมืองหลวงเพื่อตรวจสอบหลังจากที่ได้รับคำขู่ว่าจะมีการก่อเหตุร้าย โฆษกสำนักงานตำรวจแถลงว่า เกิดเหตุระเบิดทางตะวันออกของกรุงโคลัมโบ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือ เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีคำสั่งห้ามใช้โดรนและระงับใบอนุญาตผู้ดำเนินการโดรนเชิงพาณิชย์โดยมีผลทันที ส่วนโบสถ์คริสต์ทั่วประเทศยังต้องปิดต่อไปอีกระยะ กับให้และระงับการทำพิธีทั้งหมด ยกเว้นพิธีศพส่วนบุคคล

โดยตั้งแต่คืนวันพุธ กองทัพบกเพิ่มกำลังทหารจาก 1,300 นาย เป็น 6,300 นาย พร้อมได้รับการสนับสนุนกำลังพลจากกองทัพเรือและกองทัพอากาศอีก 2,000 นาย เพื่อร่วมปฏิบัติการตามล่าผู้ต้องสงสัย ซึ่งนอกจากจะมีชาวศรีลังกาแล้ว ยังมีชาวอียิปต์ และชาวปากีสถานอีกหลายคน โดยมีอยู่ 1 คนที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย โดยจำนวนผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวจนถึงขณะนี้มีจำนวนมากกว่า 75 คนแล้ว

ในส่วนของความคืบหน้าการสอบสวน มือระเบิดฆ่าตัวตายมีจำนวน 9 คน ซึ่งเป็นหญิง 1 คน สันนิษฐานว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือกลุ่มหัวรุนแรง 2 กลุ่มในศรีลังกา ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศ โดยกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ประกาศว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งในภาพที่กลุ่มไอเอสนำมาอ้างเป็นหลักฐานมีภาพของนายโมฮัมเหม็ด ซาห์ราน นักการศาสนาจากภาคตะวันออกรวมอยู่ด้วยและเชื่อว่าเขาเป็นผู้วางแผนการโจมตี

รัฐบาลศรีลังกายอมรับว่าเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ในงานด้านข่าวกรอง ทำให้ภาครัฐไม่สามารถป้องกันเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 253 รายซึ่งเป็นการปรับลดลงมาจากรายงานก่อนก่อนหน้านี้ที่ 359 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 500 คน แม้จะได้รับแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวกรองอินเดียล่วงหน้ามาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน แต่ก็ไม่มีการแบ่งปันข้อมูลให้กับหน่วยงานข่าวกรองในประเทศ

ตำรวจศรีลังกาเปิดเผยด้วยว่า ในกลุ่มมือระเบิดฆ่าตัวตายมีอยู่ 2 คนที่เป็นพี่น้องกันและมีฐานะร่ำรวย ซึ่งในการเข้าตรวจค้นบ้านของพวกเขาในย่านเดมาทาโกดา ปรากฏว่าสตรีคนหนึ่งที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นภรรยาของมือระเบิดที่เป็นพี่ชายหรือน้องชาย กดระเบิดฆ่าตัวตาย โดยตัวเธอเองกำลังตั้งครรภ์และใกล้กับเธอคือลูกอีก 2 คน กับทำให้ตำรวจเสียชีวิตด้วย 3 นาย

รัฐมนตรีการต่างประเทศอาเซียนออกแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อประณามอย่างรุนแรงต่อผู้ก่อเหตุโจมตีโบสถ์และสถานที่สำคัญในศรีลังกา พร้อมแสดงความเสียใจและเห็นใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย ทั้งยังสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลศรีลังกาในการจัดการกับสถานการณ์ และนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยอาเซียนพร้อมให้การสนับสนุนการทำงานอย่างใกล้ชิดในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายทุกรูปแบบ

อิสราเอลออกคำแนะนำพลเมืองของตนที่กำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในศรีลังกาให้เดินทางออกจากศรีลังกา เนื่องจากมีภัยคุกคามที่เป็นรูปธรรม สถานการณ์ด้านความมั่นคงย่ำแย่ลง มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกในอนาคตอันใกล้ และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลเสนอให้ความช่วยเหลือแก่ทางการศรีลังกา

กระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรออกคำเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังศรีลังกา หากไม่มีเหตุจำเป็น เพราะยังมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ก่อการร้ายจะก่อเหตุโจมตีสถานที่ที่มีชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยรัฐบาลกำลังเจรจากับบริษัทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เรื่องการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เป็นพลเมืองสหราชอาณาจักรกว่า 8,000 คนที่ยังอยู่ในศรีลังกา

ด้านการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่เมืองวลาดิวอสต็อก ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีการทำข้อตกลง แต่ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า มีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีและการแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนนายคิมกล่าวว่า เขามีความหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงให้ความสัมพันธ์ในยุคใหม่นี้ มีความมั่นคงมากขึ้นและดีขึ้นกว่าในอดีต โดยมีการพูดคุยที่ดีในเรื่องของการดำเนินความพยายามเพื่อแก้ปัญหาความชะงักงันในการเจรจากับสหรัฐฯ ว่าด้วยโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดีปูติน กล่าวด้วยว่า การที่สหรัฐฯให้การรับรองความมั่นคงปลอดภัยต่อเกาหลีเหนือ ยังไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือปิดโครงการอาวุธนิวเคลียร์

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่จะเพิ่มกำลังผลิตเพื่อชดเชยอุปทานที่จะขาดหายไป เนื่องจากมาตรการลงโทษตลาดพลังงานของอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 68 เซ็นต์ ปิดที่ 65.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 22 เซ็นต์ ปิดที่ 74.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการของ 3M ที่ลดลงร้อยละ 13 และมีการปลดพนักงาน 2,000 อัตราทั่วโลก

ดาวโจนส์ ลดลง 134.97 จุด หรือร้อยละ 0.51 ปิดที่ 26,462.08 จุด

เอสแอนด์พี ลดลง 1.08 จุด หรือร้อยละ 0.04 ปิดที่ 2,926.17 จุด

แนสแดค เพิ่มขึ้น 16.67 จุด หรือร้อยละ 0.21 ปิดที่ 8,118.68 จุด

...