ทันสถานการณ์โลก ประจำวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2562

ทันสถานการณ์โลก ประจำวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2562

+++นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า รัฐบาลของเธอไม่ได้รับรายงานข่าวกรองใด ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในเทศกาลอีสเตอร์ที่ศรีลังกา มีความเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งที่ไครสต์เชิร์ช แต่การสอบสวนของศรีลังกายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

+++ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของศรีลังกา สรุปสถานการณ์ล่าสุดต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 321 คน โดยเป็นเด็กอย่างน้อย 45 ราย กับมีผู้บาดเจ็บ 500 คน ผู้ก่อเหตุคือสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศที่ต้องการล้างแค้นให้กับเหตุการณ์ที่ไครสต์เชิร์ช เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งผู้ก่อเหตุคือผู้ที่มีแนวคิดชาตินิยมเหยียดผิว ขณะที่กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีด้วยการส่งสมาชิก 7 คนเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย แต่คำกล่าวอ้างนี้ไม่มีหลักฐานยืนยัน

+++นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห แห่งศรีลังกา กล่าวยอมรับว่ากำลังมีการตรวจสอบข้อกล่าวอ้างนี้ โดยจะเน้นไปที่กลุ่มผู้ที่เคยเดินทางไปเข้าร่วมรบกับกลุ่มไอเอสแล้วเดินทางกลับประเทศ แต่ก็ยังไม่มีการตัดประเด็นที่ว่าเป็นการก่อเหตุของกลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศ และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยมีส่วนร่วมกับเหตุก่อการร้าย 40 คน

+++นายชิรัล ลัคธิลากา ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี ไมตรีปาละ สิริเสนาของศรีลังกา เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า รัฐบาลศรีลังกา เชื่อว่า นายอินชาน ซีลาวาน เจ้าของโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 2 มือระเบิดพลีชีพที่กดชนวนระเบิดที่โรงแรมแชงกรีลาในกรุงโคลัมโบ เป็นหัวหน้าแก๊งและเป็นผู้บงการเหตุโจมตีทั้งหมด ส่วนคนร้ายรายที่ 2 ที่ร่วมก่อเหตุในจุดเดียวกับนายซีลาวาน คือ นายซาห์รัน ฮาชิม โดยนายลัคธิลากา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของศรีลังกา จับกุมสมาชิกเครือข่ายดังกล่าวได้เกือบทั้งหมดแล้ว แต่มีบางคนอยู่ระหว่างหลบหนี

+++นอกจากนี้เขายืนยันกระแสข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีสิริเสนา ขอให้ 2 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของศรีลังกาที่รับผิดชอบด้านข่าวกรองคือ นายเหมะสิริ เฟอร์นันโด รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และนายพูจิต ชัยสุนทรา ผู้บัญชาการตำรวจของศรีลังกา ลาออกฐานบกพร่องในการระวังเหตุร้าย ทั้งๆที่ได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวกรองของอินเดีย 3 ครั้งคือ เมื่อวันที่ 4 เมษายน วันที่ 20 เมษายนและครั้งสุดท้าย คือ 1 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ

+++ นายรูวาน วิเจวาร์เดเน รัฐมนตรีกลาโหมของศรีลังกา เปิดเผยในการแถลงข่าวในวันนี้ว่า ในจำนวนคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดพลีชีพ 9 คน ตำรวจทราบชื่อแล้ว 8 คน ส่วนรายที่ 9 เป็นภรรยาของคนร้าย จากการตรวจสอบ พบว่า คนร้ายส่วนใหญ่ที่ลงมือก่อเหตุระเบิดพลีชีพ มาจากครอบครัวที่มีฐานะดีหรือครอบครัวชนชั้นกลางถึงระดับสูงในสังคมและมีการศึกษาดี รวมทั้งรายหนึ่งที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอังกฤษและอยู่ระหว่างเรียนระดับปริญญาโทในออสเตรเลีย

+++เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำศรีลังกาออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าสหรัฐฯ ทราบข่าวกรองล่วงหน้าว่ากลุ่มติดอาวุธจะก่อเหตุโจมตีในวันอีสเตอร์ที่ศรีลังกา และได้แชร์ข้อมูลดังกล่าวให้รัฐบาลโคลัมโบทราบก่อนเกิดเหตุ ทางการศรีลังกาได้เริ่มสอบสวนแล้วว่าเหตุใดคำเตือนเหล่านี้จึงไม่ถูกส่งต่อไปยังบรรดารัฐมนตรีคนสำคัญ

+++มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ สั่งยิงเป้าประหารเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ 4 ราย หลังการประชุมซัมมิตรระหว่างเขากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่กรุงฮานอย ประสบความล้มเหลว ตามคำกล่าวอ้างของกลุ่มสื่อมวลชนอิสระในวันพุธ(24เม.ย.)สำนักข่าวแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นรายงานว่าเปียงยางกล่าวหาเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนขายข้อมูลให้แก่วอชิงตันก่อนการประชุมซัมมิตที่ฮานอย โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักการทูตคนหนึ่งของสถานทูตเกาหลีเหนือประจำฮานอย อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนที่น่าเชื่อถืออื่นๆไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้ ข่าวลือเกี่ยวกับการประหารชีวิตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ มีออกมาในขณะที่ คิม เดินทางถึงรัสเซียวันพุธ(24เม.ย.) เพื่อหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน  ผู้นำเกาหลีเหนือบอกว่าเขาหวังว่าการเยือนรัสเซียครั้งนี้ ที่เขาหวังมาพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี จะประสบความสำเร็จและเป็นประโยชน์

+++ราคาน้ำมันสหรัฐฯลดลงในวันพุธ(24เม.ย.) หลังพบสต๊อกปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นอย่างมาก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 41 เซ็นต์ ปิดที่ 65.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 6 เซ็นต์ ปิดที่ 74.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ(24เม.ย.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 เมษายน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลตส์ คาดหมายว่าน่าจะลดลงราวๆ 500,000 บาร์เรล 

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(24เม.ย.) ขยับลงจาดระดับสูงสุด ท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่ผสมผสาน ก่อนการเปิดเผยผลดำเนินกิจการรายไตรมาสของเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ดาวโจนส์ ลดลง 59.34 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,597.05 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.43 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,927.25 จุด

+++ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(24เม.ย.) ปิดบวก ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบปี โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,279.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ "โบอิ้ง" ยกเลิกตัวเลขแนวโน้มผลประกอบการประจำปี 2019 รวมถึงหยุดการซื้อหุ้นคืน พร้อมประกาศว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1 พันล้านดอลลาร์ จากการที่ 737 MAX ถูกสั่งห้ามบินในหลายประเทศ นับเป็นการเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ 103 ปี หลังจากเกิดภัยพิบัติกับสายการบิน ไลออน แอร์ ในประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมปีที่แล้ว และสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์ตกในปีนี้  โบอิ้งลดการผลิตเครื่องบิน เหลือแค่ 42 ลำต่อเดือน ลดลงจาก 52 ลำ ส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน

+++ตำรวจนอร์เวย์ เปิดเผยว่า ชาวบ้านหลายร้อยคนจาก 148 ครัวเรือนในเมืองซุคินดัลทางภาคใต้ของประเทศต้องอพยพไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ป่าเมื่อสองวันก่อน  โดยเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงอยู่ระหว่างเร่งดับไฟป่า ยังไม่มีรายงานคนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ แต่พื้นที่ป่าถูกเผาเสียหายไปแล้ว 2.9 ตารางไมล์ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน ตำรวจ ระบุว่า กระแสลมแรงในระยะนี้ส่งผลให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว และยังไม่สามารถคุมเพลิงได้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคน เตือนว่า ในเดือนนี้ อาจจะเกิดเหตุไฟป่ารุนแรงในหลายประเทศในยุโรป โดยเฉพาะสวีเดน เยอรมนี และ สหราชอาณาจักร