ทันสถานการณ์โลก ประจำวันพุธที่ 24 เมษายน 2562

ทันสถานการณ์โลก ประจำวันพุธที่ 24 เมษายน 2562

+++ความคืบหน้าเหตุโจมตีโบสถ์คริสต์และโรงแรมรวม 8 จุดทั้งในและนอกกรุงโคลัมโบ ศรีลังกาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ มีผู้เสียชีวิต 321 ศพ บาดเจ็บหลายร้อยคน ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยสอบปากคำแล้ว 24 คน ล่าสุดแถลงการณ์จากกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ที่เผยแพร่ทางสำนักข่าวอามักของกลุ่มไอเอสว่า กลุ่มไอเอส อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีศรีลังกา นักรบของกลุ่มไอเอส เป็นคนร้ายที่ลงมือโจมตีพลเรือนของรัฐสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรที่มีแนวคิดต่อต้านกลุ่มไอเอสและชาวคริสต์ในศรีลังกา  แต่ซีเอ็นเอ็น ตั้งข้อสังเกตว่าแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนคำอ้างอย่างชัดเจน และที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนของศรีลังกาก็ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงว่ากลุ่มไอเอสมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ที่ผ่านมาคำอ้างของกลุ่มไอเอสในบางครั้งปรากฏในเวลาต่อมาว่าไม่เป็นความจริง ด้านโฆษกสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโคลัมโบ ระบุว่า ตำรวจของสถานีตำรวจทุกแห่งได้รับคำสั่งให้ตั้งด่านตรวจตามจุดต่างๆในกรุงโคลัมโบ เพื่อตรวจค้นรถบรรทุกและรถตู้ที่ต้องสงสัยว่าอาจบรรทุกระเบิด เพื่อก่อเหตุรุนแรงซ้ำอีก

+++ประธานาธิบดีคิม จองอึน และประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะพบปะกันในดินแดนตะวันออกไกลของรัสเซียในวันพฤหัสบดี(25เม.ย.) เพื่อหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพันธมิตรเก่าท่ามกลางการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ นายยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยนโยบายต่างประเทศของรัสเซียเปิดเผยว่าการประชุม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสอง จะมีขึ้นที่เมืองวลาดิวอสต็อก ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ก่อนที่นายปูติน จะมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง จีน เพื่อประชุมซัมมิตกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน

+++สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ ของรัสเซีย รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในในการรถไฟของประเทศ คาดหมายว่าขบวนรถไฟของนายคิม จะเดินทางถึงสถานีวลาดิวอสต็อก ตอนเวลา 18.00น.ของวันพุธ(ตรงกับเมืองไทย 15.00น.)  ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานว่า นายคิม ซึ่งมักเดินทางออกไปประชุมระหว่างประเทศด้วยรถไฟกันกระสุน คาดหมายว่าจะเดินทางเข้าสู่รัสเซีย ผ่านเมืองคาซาน ที่อยู่ตามแนวชายแดน  การประชุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากนายปูติน ส่งคำเชิญถึง นายคิม หลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ที่ผู้นำเกาหลีเหนือได้เริ่มดำเนินการสานสัมพันธ์ทางการทูตกับผู้นำชาติต่างๆเมื่อปีที่แล้ว นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ผู้นำเกาหลีเหนือได้พบปะกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ไปแล้ 4 ครั้ง, พบปะกับ นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ 3 ครั้ง และประชุมซัมมิตกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ 2 ครั้ง และกับประธานาธิบดีเวียดนาม 1 ครั้ง

+++รอยเตอร์ รายงานอ้างทำเนียบขาวของสหรัฐฯว่าสหรัฐฯขอให้ 8 ประเทศที่ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน รวมถึงประเทศจีน,อินเดีย,ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,ไต้หวัน,ตุรกี,อิตาลีและกรีซ ให้หยุดสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่านภายในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ มิฉะนั้นประเทศเหล่านั้นอาจจะถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลคือตัดเส้นทางสร้างรายได้จากการขายน้ำมันดิบของอิหร่านรายได้ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี เพื่อกดดันอิหร่านให้ล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์,ขีปนาวุธและการเข้าไปแทรกแซงปัญหาขัดแย้งภายในของซีเรียและเยเมน

+++คำเตือนดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดเบรนท์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ขยับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนคือสูงกว่า 74 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ หลังจากนักลงทุนหวั่นเกรงว่าปริมาณน้ำมันดิบที่จะป้อนเข้าสู่ตลาดโลกอาจจะไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะจากซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก อื่นๆ ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัส สหรัฐฯขยับไปที่ 65.92 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน

+++ราคาน้ำมันขยับขึ้น 3 วันติดในวันอังคาร(23เม.ย.) ทำสถิติสูงสุดในรอบปีครั้งใหม่ ยังถูกกดดันจากกรณีสหรัฐฯยุติผ่อนผันแก่ประเทศต่างๆสำหรับนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง ตามรายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆ ขณะที่ทองคำปิดลบ

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ ปิดที่ 66.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 74.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++เช่นเดียวกับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 145.34 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,656.39 จุด หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทต่างๆซึ่งออกมาในแง่บวก ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ อีกปัจจัยที่ส่งเสริมตลาดหุ้นอเมริกาได้แก่ข้อมูลทางเศรษฐกิจ โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 692,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2017 จากระดับ 662,000 ยูนิตในเดือนก.พ. และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3การพุ่งขึ้นของยอดขายบ้านใหม่ได้รับแรงหนุนจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองและราคาบ้าน

+++ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(23เม.ย.) ปิดลบพอสมควร หลังดอลลาร์ยังแกว่งตัวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,273.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++ซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่าได้ประหารชีวิตพลเมือง 37 คนจากความผิดฐาน "ก่อการร้าย" ในประเทศ สำนักข่าวซาอุดีเพรส(เอสพีเอ) สื่อมวลชนแห่งรัฐ ระบุว่าพลเมืองเหล่านี้ถูกประหารฐานรับเอาแนวคิดก่อการร้ายและหัวรุนแรง รวมถึงจัดตั้งเครือข่ายเพื่อก่อการร้ายกระทบความมั่นคง แต่นับจากต้นปี โดยสำนักข่าวเอสพีเอ ระบุว่ามีนักโทษอย่างน้อย 100 รายถูกประหารชีวิต ในซาอุดิอาระเบีย แต่มีเพียงอิหร่านเพียงชาติเดียวเท่านั้น ที่ประหารชีวิตนักโทษมากกว่าซาอุดิอาระเบีย  นอกจากคดีก่อการร้ายแล้ว ยังมีความผิดฐานฆาตกรรม, ข่มขืน, ขโมยโดยใช้อาวุธและค้ายาเสพติด มีสิทธิ์ต้องโทษประหารชีวิต ซึ่งทางรัฐบาลอ้างว่าเพื่อยับยั้งไม่ให้ก่ออาชญากรรมซ้ำอีก

+++มูนิรา อับดุลลา สตรีชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อายุ 32 ปี ฟื้นขึ้นมา หลังนอนหลับเป็นผักนาน ถึง 27 ปี จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน เมื่อ ปี 1991  จนเมืองปีที่แล้ว ได้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูในเยอรมนี อับดุลลาเริ่มส่งเสียงพยายามเรียกลูกชาย โอมาร์ หลังจากได้ยินเสียงเขากำลังโต้เถียงกับคนอื่นภายในห้องของโรงพยาบาลที่เธอนอนพักรักษาตัวอยู่ ไม่กี่วันต่อมา เธอสามารถเปล่งเสียงเรียกชื่อของลูกชายได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ และตอนนี้เธอสามารถสวดมนต์ได้แล้ว เช่นเดียวกับการพูดคุยกับบุคคลที่เธอรัก