ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 22 เมษายน 2562

จากเหตุระเบิดถึง 8 ครั้งในศรีลังกาเมื่อวานนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในโบสถ์ระหว่างที่กำลังมีพิธีอีสเตอร์ และที่โรงแรมหรู ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 207 คน บาดเจ็บมากกว่า 450 คนซึ่งมีชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอีกมากกว่า 35 คน โดยมีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 7 คน

โดยระเบิด 6 ครั้งแรกเกิดขึ้นที่โรงแรม 3 แห่งได้แก่ โรงแรมแชงกรีลา โรงแรมซินนามอนแกรนด์ และโรงแรมแกรนด์ คิงส์บิวรี ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับเหตุระเบิดที่โบสถ์เซนต์แอนโธนี ในกรุงโคลัมโบ กับยังมีการโจมตีที่โบสถ์เมืองเนกอมโบ ทางเหนือของกรุงโคลัมโบ และที่โบสถ์ในเมืองบัตติคาลัว ทางตะวันออกของเมือง จากนั้นก็เกิดเหตุระเบิดครั้งที่ 7 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งชานเมืองหลวง และครั้งที่ 8 เกิดขึ้นที่ย่านโอรูโกดาวัตตา ชานเมืองหลวงด้านเหนือ ซึ่งตำรวจเพิ่มเติมว่า เหตุระเบิดครั้งที่ 8 นี้เกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจู่โจมเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัย แล้วผู้ต้องสงสัยจุดระเบิดเพื่อฆ่าตัวตาย แรงระเบิดทำให้บ้านพังถล่มลงมาและมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย

อีกจุดที่เป็นเหตุระเบิดฆ่าตัวตายคือที่ส่วนห้องอาหารของโรงแรมซินนามอนแกรนด์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทำเนียบนายกรัฐมนตรี

โรงพยาบาลที่รับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเปิดเผยว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีชาวอังกฤษ ดัทช์ อเมริกัน และโปรตุเกส ส่วนในกลุ่มผู้บาดเจ็บมีชาวอังกฤษและญี่ปุ่น

เหตุการณ์นี้ยังไม่มีกลุ่มใดยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่เมื่อ 10 วันก่อน ตำรวจศรีลังกาออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังการโจมตีโบสถ์สำคัญ โดยกลุ่มเนชันแนล ธาวฮีธ จามาอัธ หรือ เอ็นทีเจ ที่เป็นกลุ่มหัวรุนแรงในศรีลังกา ที่มีการเคลื่อนไหวก่อเหตุมาตั้งแต่ปีก่อน จากการทำลายพระพุทธรูป

กระทรวงกลาโหมออกประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในยามวิกาลตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ไปจนถึง 6.00 น. ของวันจันทร์ที่ 22 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น และห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภทเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน สถานทูตหลายแห่งออกประกาศเตือนพลเมืองให้อยู่ในเคหสถาน และสายการบินศรีลังกาขอให้ผู้โดยสารเดินทางมาถึงสนามบิน ก่อนกำหนดเวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ประณามการโจมตีที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองศรีลังกายุติลงเมื่อ 10 ปีก่อน โดยระบุว่า เป็นการกระทำของคนขี้ขลาด

ด้านประธานาธิบดีไมตรีพลา สิริเสนา ออกแถลงการณ์ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงแสดงธรรมเนื่องในวันอีสเตอร์ที่สำนักวาติกัน ระบุ เสียพระทัยกับระเบิดนองเลือดในศรีลังกา พระองค์ทรงยืนเคียงข้างผู้สูญเสียจากความรุนแรง

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของสหราชอาณาจักร ทวีตข้อความระบุ การก่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องสะเทือนขวัญ และว่าเราต้องยืนเคียงข้างกันเพื่อสร้างหลักประกันว่า จะไม่มีใครที่แสดงความศรัทธาของตนท่ามกลางความหวาดกลัว

นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ เรียกการโจมตีที่ศรีลังกาว่าเป็นการทำลายล้าง นิวซีแลนด์ประณามการก่อการร้ายทุกรูปแบบ ไม่ยอมรับการกระทำของกลุ่มหัวรุนแรง และยืนยันเสรีภาพในการนับถือศาสนา และสิทธิในการแสดงความศรัทธาอย่างปลอดภัย

การเมืองฝรั่งเศส เอเอฟพี รายงานว่าคะแนนนิยมของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส หลังเหตุไฟไหม้มหาวิหารนอร์ท-ดามกรุงปารีส อยู่ในระดับอ่อนแอโดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 29 พอใจงานของประธานาธิบดี แต่ร้อยละ 69 ไม่พอใจ

นอกจากนี้ในช่วงสุดสัปดาห์กลุ่มเสื้อกั๊กสีเหลืองยังเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเป็นครั้งที่ 23 แล้ว สำนักงานอัยการกรุงปารีสรายงานการจับกุมผู้ก่อความไม่สงบและความรุนแรง 227 คน ซึ่งในกลุ่มนี้มีผู้เยาว์รวมอยู่ด้วย 6 คน

ศาลฎีกาอัฟกานิสถาน ประกาศขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี เนื่องจากการจัดการเลือกตั้งมีปัญหาทั้งเรื่องการเงิน ความมั่นคง และการคมนาคมขนส่ง ตามกำหนดเดิมคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 20 เมษายนนี้

ปิดท้ายที่ออสเตรเลีย ซึ่งเกิดเหตุการณ์หมาป่าดิงโกบนเกาะเฟรเซอร์ทำร้ายนักท่องเที่ยว 3 ครั้งแล้วในปีนี้ ทำให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย ทบทวนมาตรการจัดการหมาป่าดิงโกเพื่อลดความเสี่ยงที่หมาป่าจะมาทำร้ายมนุษย์ และต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเพื่อลาดตระเวนและทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว

....