การแถลงข่าวคัดค้านการใช้มาตรา44 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน โดยกลุ่มคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และคณะตรวจสอบภาคประชาชน นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยระบุว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อยืดระยะเวลาจ่ายค่าสัมปทานคลื่น 900 MHz ของ 3 ค่ายมือถือ จาก 4 งวด เป็น 10 งวด และเปิดโอกาสให้ทีวีดิจิทัล 22 ช่อง สามารถคืนใบอนุญาตได้ และให้สามารถบริการ 5G แบบไม่ต้องประมูลอีกในอนาคต ทั้งที่ธุรกิจมือถือยังไม่ได้ขาดทุน เป็นการใช้ มาตรา 44 โดยมิชอบ ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชน แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ทั้งหมดให้กับเอกชน ทั้งที่บริษัทดังกล่าวไม่ได้มีปัญหาทางด้านการเงิน และบางบริษัทมีกำไรถึงปีละ 30,000 ล้านบาท จึงมองว่าเรื่องดังกล่าวถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะที่รับผิดชอบโดยตรงต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามมาได้
ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มยังไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.)ไปดำเนินการเรื่องร้านค้าสินค้าปลอดภาษีในสนามบินเองโดยไม่ต้องใช้พระราชบัญญัติร่วมทุนรัฐและเอกชน เพราะมองว่าเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์เอกชน และเอื้อต่อการทุจริตรวมถึงทำให้ประเทศชาติเสียรายได้ มากกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทอีกด้วย
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี