ตามที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เคยร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เกี่ยวกับการโพสต์ข้อความของสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติ ที่อาจมีผลต่อการเลือกตั้ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2562 เวลา 13.30 น. คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต. ได้มีหนังสือเชิญไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ยื่นฟ้องว่า นางเบญญา นันทขว้าง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ถ้าฝ่าย ปชต.กงเต๊กชนะเลือกตั้ง ที่สุดก็จะปฏิวัติอีกรอบ” และกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ปราศรัยขู่ว่า “ถ้าเลือกพรรคเพื่อ...เจอกันราชดำเนิน” ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 92(2) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 คือ “กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข” และหรือ มาตรา 73(5) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ที่ว่า “ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง”
การกระทำของนางเบญญาและนายสุเทพ เป็นที่รับรู้รับทราบกันโดยทั่วไปของสาธารณชน ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนที่รับรู้ข้อมูลข่าวสารดังกล่าว ซึ่งการกระทำเช่นนี้อาจเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่สุจริตและเที่ยงธรรมตามที่กฎหมายบัญญัติ หาก กกต.ไต่สวนและวินิจฉัยเป็นไปตามคำร้องของสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ก็จะมีผลให้นำสู่การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้
แฟ้มภาพ