ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.35 น. 18 เมษายน 2562

18 เมษายน 2562, 12:58น.


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยร่วมถวายความปลอดภัยการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นำประชุมกองอำนวยการรวมกว่า 30 หน่วยงาน เพื่อทำการเปิดศูนย์อำนวยการฯ ที่ ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม โดยจะปฏิบัติงานทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัย การถวายความปลอดภัย การจัดการจราจร และการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธี ส่วนการดูแลความปลอดภัยของกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีเรื่องใดน่าเป็นห่วง และไม่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง มีรายงานข่าวว่า ในด้านการข่าวยังได้มีการติดตามกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าวซึ่งเป็นกลุ่มคนที่จิตไม่ปกติ



ยอดสะสมสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 12,597 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 12,192 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.79 คดีขับเสพจำนวน 386  คดี คิดเป็นร้อยละ 3.06 คดีขับรถประมาท จำนวน 19 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.15 จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุรา สะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 727 คดี จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 714 คดี และจังหวัดนครพนม จำนวน 533 คดี มาตรการต่อจากนี้ กรมคุมประพฤติ จะดำเนินการจำแนกความเสี่ยงและคัดกรองผู้ถูกคุมความประพฤติตามแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุราจะส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการเพื่อรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ดื่มแล้วขับตามสถานพยาบาล ภายใต้โครงการ บำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ดื่มแล้วขับ ถูกจับ ผิดซ้ำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2562 และยังคงมีมาตรการการทำงานบริการสังคมสำหรับผู้กระทำผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อสร้างจิตสำนึกและให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การดูแลเหยื่อเมาแล้วขับหรือผู้ป่วยติดเตียงตามโรงพยาบาล การเป็นอาสาจราจร หรือร่วมกิจกรรมยังจุดตรวจ ด่านตรวจ เป็นต้น



ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 แถลงอุบัติเหตุประจำวันที่ 17 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร เกิดอุบัติเหตุ 273 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 30 คน ผู้บาดเจ็บ 277 คน  สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 38.10 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 26.74 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.15 รถปิกอัพ 7.42 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 72.89 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 46.15 ถนนในองค์การบริหารส่วนตำบล/หมู่บ้าน ร้อยละ 25.64 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 08.01 – 12.00 น. และ 12.01 – 16.00 น. มีค่าเท่ากันร้อยละ 23.81 เจ้าหน้าที่ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,039 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,454 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 981,987 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 210,883 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 55,805 ราย ไม่มีใบขับขี่ 48,183 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี (จังหวัดละ 10 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี (4 คน) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (11 คน)



นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ว่ามีวาระในการเตรียมการประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 24 เมษายน เพื่อรับรองงบดุลรายงานผลการดำเนินการปี 2561 การปฏิรูปพรรค และการตั้งคณะทำงานจัดการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค เช่น ขั้นตอนการรับสมัครหัวหน้าพรรค การเปิดให้แสดงวิสัยทัศน์ และการให้สมาชิกพรรคหยั่งเสียงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต กระบวนการทั้งหมดต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม มั่นใจว่ากระบวนการหยั่งเสียง รวมถึง การให้ผู้สมัครหัวหน้าพรรคแสดงวิสัยทัศน์ จะไม่ทำให้พรรคเกิดความแตกแยก แต่เป็นจุดแข็งในความเป็นสถาบันการเมืองที่พรรคได้เริ่มต้นเอาไว้ และต้องเดินหน้าต่อ เชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับในกติกาส่วนการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 9 พฤษภาคม ไม่เกิน 7 วัน ส่วนตัวจะไม่ลงสมัครหัวหน้าพรรคในครั้งนี้ และ กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้วจะเป็นผู้ตัดสินใจทางการเมืองว่าจะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านและไม่ว่าจะมีมติออกมาเช่นไร ต้องเคารพมติพรรค จะมีงูเห่าไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากมีงูเห่าเกิดขึ้น พรรคก็มีมาตรการในการจัดการตามข้อบังคับพรรค 



เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส เตือนว่ากลุ่มมิจฉาชีพอาจฉวยประโยชน์จากเหตุไฟไหม้มหาวิหารน็อทร์-ดาม ในกรุงปารีส หลอกรับเงินบริจาคบูรณะซ่อมแซมมหาวิหาร กองทุนมรดกแห่งฝรั่งเศส ซึ่งรวบรวมเงินทุนได้กว่า 13 ล้านยูโร (464 ล้านบาท) จากผู้บริจาครายบุคคลเพื่อช่วยบูรณะซ่อมแซมวิหารสมัยโกธิค แจ้งว่าโทรศัพท์หรืออีเมลติดต่อขอเรียกรับเงินบริจาคเป็นพวกแก๊งต้มตุ๋นทั้งสิ้น โดยมีรายงานว่าพวกมิจฉาชีพหลอกรับเงินบริจาคจากทั้งในฝรั่งเศสและต่างประเทศ กองทุนมรดกแห่งฝรั่งเศส แถลงยืนยันว่าไม่เคยโทรศัพท์ ส่งจดหมายหรืออีเมลไปขอเงินบริจาค กองทุนฯจะรับเงินบริจาคผ่านทางเว็บไซต์ (don.fondation-patrimoine.org)  เฟซบุ๊ก ระบบโอนเงินทางออนไลน์ และเอสเอ็มเอสของกองทุนฯในฝรั่งเศสเท่านั้น เช่นเดียวกับ รัฐมนตรีวัฒนธรรมฝรั่งเศส แถลงเตือนให้ประชาชนระมัดระวังเว็บไซต์ที่แอบอ้างรับเงินบริจาค ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงประกาศว่าจะฟื้นฟูบูรณะมหาวิหารให้กลับมาสวยงามกว่าเดิมภายใน 5 ปีก่อนถึงช่วงที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X