การเกิดอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 เปิดเผยว่า วันที่ 16 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ 367 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 42 ศพ บาดเจ็บ 381 ราย จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดของวันที่จำนวน 19 ครั้ง และยังเป็นจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดจำนวน 26 ราย ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดระยองเป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดของวันที่จำนวน 4 ศพเท่ากัน โดยการขับรถเร็วเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดถึงร้อยละ 30.25 รองลงมาเป็นดื่มแล้วขับ รถจักรยานยนต์ยังเป็นยานพาหนะที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดถึงร้อยละ 78.84 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงถึงร้อยละ 64.03 รองลงมาเป็นถนนกรมทางหลวงต่อด้วยถนนในองค์การบริหารส่วนตำบลและถนนในหมู่บ้าน โดยช่วงเวลา 16.01-20.00น.เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดกว่าร้อยละ 25.89 ทั้งนี้มีการตั้งจุดตรวจหลัก 2,040 จุด เรียกตรวจยานพาหนะกว่า 1,048,847 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 239,295 ราย ส่วนมากยังเป็นความผิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย และรองลงมาคือไม่มีใบขับขี่
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน ตั้งแต่วันที่11 เมษายน-16 เมษายน 2562 เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 3,068 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 348 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 3,176 ราย จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดที่จำนวน 119 ครั้ง ส่วนจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดอุดรธานี มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดเท่ากันที่จังหวัดละ 15 ศพ ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดที่จำนวน 126 ราย และมีอยู่ 5 จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย จังหวัดตรัง, จังหวัดพังงา, จังหวัดแม่ฮ่องสอน, จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอ่างทอง
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันที่มีประชาชนเดินทางกลับ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในทุกระบบขนส่งเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง เข้มงวดในเรื่องความพร้อมของรถและพนักงานขับรถ ตลอด 6 วัน มีคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติรวม 8,642 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุราถึง 8,481 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 98.14 จังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่มีคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงที่สุดถึง 596 คดี รองลงมาเป็นกรุงเทพมหานคร และจังหวัดนครพนม
ตลอด 6 วันมีการสั่งติดอุปกรณ์ติดตามตัวผู้ต้องหาถึง 389 คดี ซึ่งทุกคดีมาจากการขับรถขณะเมาสุรา โดยมีข้อกำหนดห้ามผู้ใส่อุปกรณ์ดังกล่าวออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22.00-05.00น. และต้องติดอุปกรณ์ไว้เป็นเวลา 7-15 วัน และจะให้ไปช่วยงานสาธารณะในโรงพยาบาลด้วยเพื่อให้เห็นถึงผลของการเมาแล้วขับ พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำเต็มที่แล้วในการป้องปรามเหตุทะเลาะวิวาทหน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ซึ่งส่วนตัวก็แปลกใจที่ในเวลาไล่เลี่ยกันเกิดกรณีนี้ขึ้นพร้อมกันถึง 3 ครั้ง เชื่อว่า สาเหตุมาจากการเมาสุรา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องนำบทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้นมาทบทวนหามาตรการป้องกันและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร
ผู้นำสหภาพยุโรปประชุมมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ภาษีศุลกากร และนโยบายตะวันออกกลาง
...
จเรตำรวจแห่งชาติ ประสานนานาชาติกดดันกัมพูชาปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
...
ทรัมป์เรียกร้องให้ยุติการพิจารณาคดีทุจริตของเนทันยาฮู
...
ข่าวทั้งหมด
