ศาล ให้ประกันคดีเมาแล้วขับชนตำรวจเสียชีวิต หลังเปลี่ยนข้อหาใหม่

หลังจากที่เมื่อเช้านี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดง ได้คุมตัวนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ผู้ต้องหาคดีเมาแล้วขับไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน แต่ต้องนำตัวกลับมาที่สถานีตำรวจอีกครั้ง เพื่อดำเนินการสอบปากคำทำสำนวนคดีใหม่ เนื่องจาก ศาลได้พิจารณาแล้ว ไม่รับฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตำรวจจึงสามารถดำเนินคดีนายสมชายได้ใน 3 ข้อหาได้แก่ 1.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ตามที่นายสมชาย ยอมรับสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายสมชายกลับมาที่ศาลอีกครั้ง ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลอนุญาตให้นายสมชาย ได้รับการประกันตัวในวงเงิน 2 แสนบาท  

ทนายความ ให้ข้อมูลว่า ญาติได้นำหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินราคาประมาณ 5 แสนบาทมายื่นขอประกันตัว ซึ่งข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งมา ไม่มีการดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

นายสมชาย ผู้ต้องหาคดีเมาแล้วขับรถเบนซ์ รุ่นอี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร ชนรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร ทำให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 2 กองปราบปราม เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ส่วนนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยาบาดเจ็บสาหัสไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และ น.ส.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 16 ปี บุตรสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส 

แฟ้มภาพ