หลังจากที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดง นำตัวนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ผู้ต้องหาคดีเมาแล้วขับรถเบนซ์ รุ่นอี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร ชนรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร ทำให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 2 กองปราบปราม เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ส่วนนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยาบาดเจ็บสาหัสไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และ น.ส.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 16 ปี บุตรสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสมชาย ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ตามข้อหาหนัก 5 ฐานความผิดคือ 1.ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 5.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
ทำให้พนักงานสอบสวน ต้องนำตัวนายสมชาย กลับโรงพัก เพื่อทำการสอบปากคำทำคดีใหม่ เนื่องจาก ศาลพิจารณาแล้วไม่สามารถรับฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะนำมาใช้ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ โดยศาลให้พนักงานสอบสวน ทำสำนวนแจ้งข้อหาแก่นายสมชายเพียง 3 ข้อหา คือ 1.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ตามที่นายสมชาย รับสารภาพในชั้นสอบสวนเท่านั้น
แฟ้มภาพ