อัยการ ขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก จำเลยคดีบุกโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์

13 เมษายน 2562, 10:56น.


การดำเนินคดีฟ้องร้องกลุ่มวัยรุ่นที่บุกเข้าไปในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ และทำร้ายนักเรียน ครู เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างมีการทดสอบความถนัดวิชาชีพครู หรือ PAT 5 เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 3 ยื่นฟ้องนายมนตรี หรือ อุ๊ พูลทรัพย์ กับพวก รวม 22 คน ต่อศาลอาญาธนบุรีแล้วเมื่อวันที่ 11 เมษายน 25 62 โดยขอคัดค้านการประกันตัวของจำเลยทั้ง 22 คน และบรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก ในข้อหาร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันบุกรุกเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้ายและ โดยกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ และทรัพย์สินของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ต่อหน้าธารกำนัล, บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย



ส่วนการขอให้ลงโทษสถานหนัก อัยการโจทก์ได้บรรยายฟ้อง การกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย อาศัยที่มีพวกมากบุกรุกเข้าไปในโรงเรียน ทำร้ายเด็กนักเรียน และครูผู้คุมสอบ ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร ทั้งที่ไม่รู้จักและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน เป็นการข่มเหงรังแกผู้อื่นเพื่อความสะใจ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นและเพื่อความสงบสุขของสังคมโดยรวม ขอศาลได้โปรดลงโทษจำเลยตามอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมาย หากจำเลยขอประกันตัว โจทก์ขอคัดค้าน เนื่องจากจำเลยมีเป็นจำนวนมาก ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย จึงอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน



ขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลจะพิจารณาว่าจำเลยจะยื่นขอประกันตัวหรือไม่ และจะพิจารณาอย่างไร เป็นการพิจารณาทั้ง 2 ด้าน จากนั้นเข้าสู่การสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ต้นเหตุหลักไม่น่าจะเป็นเรื่องการเปิดเพลงเสียงดัง น่าจะเป็นเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ ทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวข่มเหงคนอื่นทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักหรือทะเลาะกันมาก่อน และในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ขอฝากให้ผู้ใหญ่เตือนลูกหลานอย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย



CR:FB โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง



 

ข่าวทั้งหมด

X