ป.ป.ส.ยืนยันตรวจค้นมูลนิธิข้าวขวัญตามกฎหมาย แต่ยังไม่ได้สั่งฟ้องผู้ใด

08 เมษายน 2562, 12:51น.


กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นมูลนิธิข้าวขวัญก่อนจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมยึดของกลางเกี่ยวกับกัญชาหลายอย่าง เช่น ต้นกัญชากว่า 200 ต้น นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชี้แจงว่า มูลนิธิมีการแจกกัญชาให้ประชาชนในรูปแบบให้เปล่า แต่เนื่องจากกัญชายังเป็นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งจากการตรวจสอบขณะนี้ก็ยังไม่พบว่ามูลนิธิได้ยื่นแสดงเจตจำนงว่าขอมีกัญชาไว้เพื่อรักษาโรคตามที่มีกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ครอบครองกัญชาที่มีไว้เพื่อรักษาโรคเป็นเวลา 90 วัน หรือสิ้นสุดในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ดังนั้นมูลนิธิจึงมีความผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ขอทำความเข้าใจว่ายังไม่มีการสั่งฟ้องกับผู้ใดในมูลนิธิ และมีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในมูลนิธิเพียงแค่รายเดียว หากพิสูจน์ได้ภายหลังว่ามูลนิธิมีการยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงขอมีกัญชาไว้เพื่อครอบครองในการรักษาโรคก่อนถูกจับกุมก็จะต้องว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมายอีกครั้ง ส่วนประชาชนที่ไปรับกัญชามาจากมูลนิธิถือว่าไม่มีความผิด และจะให้บำบัดรักษาต่อไป



เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ยืนยันว่า ขณะนี้มีเพียงองค์กรของรัฐ 2 หน่วยงานที่สามารถผลิตและจำหน่ายกัญชาได้ คือองค์การเภสัชกรรม และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะสามารถผลิตยาออกมาให้กับผู้ป่วย



ปัจจุบันมีการประเมินตัวเลขผู้ป่วยที่จะต้องใช้กัญชาในการรักษาโรคและโรคที่จะต้องรักษาด้วยกัญชาไว้ชัดเจนแล้ว อีกทั้งภายใน 5 ปีนี้ องค์กรเอกชนใดที่ประสงค์จะผลิตหรือจำหน่ายกัญชาก็จะต้องมาร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐเท่านั้น ยืนยันว่าการจับกุมมูลนิธินี้ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนอย่างแน่นอน และไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง ที่ขณะนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคสนับสนุนการปลูกกัญชาอย่างเสรีด้วย ส่วนการจัดงานพันธุ์บุรีรัมย์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-21 เมษายนนี้ ได้ประสานผู้จัดแล้วว่าจะต้องเป็นไปในลักษณะให้ความรู้ทางวิชาการ ถ้าจะนำต้นกัญชามาแสดงจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก่อนเท่านั้น



เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ยังชี้แจงถึงการนิรโทษกรรมผู้ครอบครองกัญชาว่าจะต้องเป็นเฉพาะผู้ที่ครอบครองกัญชาไว้เพื่อรักษาโรคเท่านั้น และผู้ที่มายื่นขอนิรโทษกรรมจะต้องอยู่ในความรับผิดชอบและการวินิจฉัยของแพทย์ หากผู้ใดที่มีกัญชาในครอบครองแล้วไม่มายื่นขอนิรโทษกรรมจะถือว่ามีความผิด ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อการรักษามายื่นขอนิรโทษกรรมก่อนวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ พร้อมเข้าใจว่าแม้กัญชาจะใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ แต่การปลดล็อคกัญชาจะต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งรัฐบาล คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก



...



ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร

ข่าวทั้งหมด

X