*เกษตรกรจ.ลพบุรี เสนอรัฐทำดัชนีชี้วัดคุณภาพข้าว หาวิธีไม่ให้ถูกกดราคา*

23 ตุลาคม 2557, 18:30น.


มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาลในมุมมองของเกษตรกร นายไชยรัตน์ โตเจริญ เกษตรกรและผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บางคู้ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เสนอรัฐบาลถึงแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวว่า ควรมีหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ดูแลเฉพาะและดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เช่นเรื่องการจัดทำดัชนีชี้วัดคุณภาพข้าว เพื่อกำหนดราคาได้อย่างชัดเจน และควรมีมาตรการป้องกันกลุ่มพ่อค้าคนกลางไม่ให้กดราคาข้าว นายไชยรัตน์ เล่าว่า ทำนามาตั้งแต่หลังวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง มีที่นาของตัวเองอยู่ 10 ไร่ และเช่าที่ผู้อื่นอีก 16 ไร่ เสียค่าเช่าไร่ละ 800บาทต่อรอบการทำนา1รอบ  มีต้นทุนรวมต่อไร่เฉลี่ย 5,500 บาท  และเฉลี่ยต่อรอบการทำนาหนึ่งรอบ จะมีกำไรทั้งหมดอยู่ที่ 10,000-15,000 บาท ก่อนหักค่าใช้จ่าย  แต่หากบางปีเกิดวิกฤตก็มีโอกาสขาดทุน ยอมรับว่ารายได้ไม่เพียงพอต้องหาอาชีพเสริม ขณะนี้ ขายข้าวขาวธรรมดาเฉลี่ยไร่ละ 7,200-7,600 บาท ซึ่งบางครั้งหากข้าวไม่มีคุณภาพหรือระบายข้าวไม่ทัน ก็จะถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง



ขณะที่นายจรุง กู้เกียรติกูล ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ ระบุว่า มีเกษตรกรมาลงทะเบียนรับการช่วยเหลือแล้วกว่า 3,100,000 ราย และยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกกว่า 400,000 ราย มาตรการชดเชยเงิน1,000บาทต่อไร่ เป็นมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในปี 2557-2558 ธ.ก.ส.เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดก่อน และรัฐบาลจะจ่ายเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยให้ภายหลัง ส่วนขั้นตอนการขึ้นทะเบียน เกษตรกรต้องนำโฉนดที่ดินหรือสัญญาเช่าที่ดินในกรณีเป็นผู้เช่าทำนา มายื่นต่อเจ้าหน้าที่ธ.ก.ส. เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเจ้าของที่ดินหรือผู้เช่าที่ดินจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบตามขั้นตอน และจะมีการประกาศด้วยแผ่นป้ายในพื้นที่ว่าเป็นของผู้ใด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดภายหลัง ขั้นตอนการตรวจสอบใช้เวลาราว 15 วันก่อนจะได้รับมาตรการช่วยเหลือ



ธีรวัฒน์

ข่าวทั้งหมด

X