นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมธนารักษ์ได้เปิดให้ประชาชนจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึก ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม ถึงวันที่ 4 เมษายน 2562 พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ มีความต้องการในการสั่งจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกดังกล่าวเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและร่วมเฉลิมพระเกียรติอีกเป็นจำนวนมาก กรมธนารักษ์ จึงขยายเวลาการรับจองต่อไปอีกจนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 สามารถจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกดังกล่าว ได้ที่หน่วยงานของกรมธนารักษ์ ได้แก่ สำนักการคลัง กรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ, พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯ, สำนักบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี, สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่, ศาลาธนารักษ์ 1 ถนนราชดำเนิน จังหวัดเชียงใหม่ และศาลาธนารักษ์ 2 ศาลากลางจังหวัดสงขลา สามารถสั่งซื้อได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด
สภาพอากาศ ช่วงนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนให้ระวังพายุฤดูร้อน หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมบริเวณประทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
เรื่องเศรษฐกิจ น.ส.กัญญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งออก เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่า ได้มีการปรับคาดการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้โตลดลงเหลือร้อยละ 3 จากเดิมที่มองว่าทั้งปีจะโตได้ที่ร้อยละ 5 เนื่องจากหากจะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 5 อีก 9 เดือนที่เหลือของปี 2562 ต้องส่งออกให้ได้มูลค่า 22,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน ซึ่งปี 2561 การส่งออกไทยทำได้เฉลี่ยเพียงเดือนละ 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ถือว่าภาคการส่งออกทำได้ดีมากก็ตาม
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบกับการส่งออกมีหลายเรื่อง เช่น บรรยากาศการค้าโลก ทั้งกรณีการเจรจาข้อตกลงที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป เบร็กซิท ที่ยังไม่มีความชัดเจน ตลาดส่งออกสำคัญของไทยเจอกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ทำให้ต้องลดการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบในการผลิตลง จึงส่งผลกดดันให้การส่งออกชะลอตัว รวมถึงตลาดญี่ปุ่นและยุโรป ยังคงติดลบ จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ประกอบกับมาตรการกีดกันทางการค้าจากประเทศต่างๆ มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลคือ อยากให้รีบจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อให้สามารถเจรจาความตกลงการค้าเสรี เอฟทีเอ ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ส่งออกไทย ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 400 บาท มองว่าเป็นการปรับขึ้นแบบก้าวกระโดดเกินไป จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ และจะส่งผลทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบด้านการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศแน่นอน ซึ่งหากกระทบทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นก็จะมีการปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ พิจารณาปรับขึ้นค่าแรงแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ปรับขึ้นครั้งเดียวทั้งหมด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 99 เซ็นต์ ปิดที่ 62.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 36 เซ็นต์ ปิดที่ 69.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมันปรับขึ้นหลังจากรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐฯรายหนึ่ง เปิดเผยว่า กรุงวอชิงตัน กำลังพิจารณาคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมและมาตรการดังกล่าวจะมีการแถลงในเดือนหน้า ทำให้หลายฝ่ายกังวลเนื่องจากสหรัฐฯ คว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา เพื่อนร่วมสมาชิกโอเปกของอิหร่าน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน ดาวโจนส์ ลดลง 79.29 จุด ปิดที่ 26,179.13 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.05 จุด ปิดที่ 2,867.24 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.78 จุด ปิดที่ 7,848.69 จุด หลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ กล่าวก่อนที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศจะประชุมช่วงฤดูใบไม้ผลิในสัปดาห์หน้า ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกเพิ่มเติม จากวิกฤตเบร็กซิต, ความตึงเครียดทางการค้าและประเด็นอื่นๆ
ราคาทองคำ ปรับขึ้นในกรอบแคบๆ ฟื้นตัวจากการปิดลบหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,295.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การเตรียมรับมือเทศกาลสงกรานต์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การเดินทางของประชาชนด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน รวม 7 วัน ประมาณ 15.44 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปี 2561 ประมาณร้อยละ 8.66 แบ่งเป็นการเดินทางภายในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมรถยนต์ รถไฟ และเรือ ประมาณ 1.29 แสนเที่ยว และเที่ยวเสริมอีก 1.8 หมื่นเที่ยว รองรับผู้โดยสารประมาณ 8.55 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.20 การเดินทางระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด รวมทางรถยนต์ รถไฟ และเที่ยวบิน ประมาณ 1.43 แสนเที่ยว และเที่ยวเสริม 2 หมื่นเที่ยว รองรับผู้โดยสาร 4.90 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.04
สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ (เฉพาะทางอากาศ) คาดว่า จะมีประมาณ 1 หมื่นเที่ยวบิน และเที่ยวเสริม 89 เที่ยวบิน รองรับผู้โดยสารประมาณ 1.99 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 21.13 สาเหตุที่การเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมีความคุ้มค่ามากขึ้น นายอาคม กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต จำนวนผู้บาดเจ็บบนโครงข่ายคมนาคม จะต้องลดลงร้อยละ 5 และที่เป็นจุดเสี่ยง จุดควบคุมและสายทางเฝ้าระวัง จะต้องลดลงร้อยละ 10 ขณะที่มาตรการเข้มข้น 777 ยกกำลัง 3 ดำเนินการมาตรการเข้มข้น กำหนดให้ดำเนินการ 7 วันก่อนเทศกาล ตั้งแต่วันที่ 4-10 เมษายน และ 7 วันระหว่างเทศกาล ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน รวมถึง 7 วันหลังเทศกาล ตั้งแต่วันที่ 18-24 เมษายน ซึ่งกำหนดเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยง จุดควบคุมและเฝ้าระวัง 111 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางกรมทางหลวง 71 เส้นทาง และกรมทางหลวงชนบท 40 เส้นทาง
สำหรับข้อห้ามที่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือคือไม่ให้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ห้ามใช้น้ำแข็ง น้ำไม่สะอาด ห้ามดื่มสุราบนรถ ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้า ห้ามขายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ขอความร่วมมือเยาวชนแต่งกายให้มิดชิด ส่วนการเล่นน้ำหลังรถกระบะสามารถเล่นได้ แต่ต้องดูความเหมาะสมเป็นกรณีไป ต้องปลอดภัย ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
แฟ้มภาพ